วันอาทิตย์, มิถุนายน 23, 2024
หน้าแรกNEWSอ่วมกันระนาว ! ไฟเขียวขึ้นค่าโดยสารทัวร์-รถตู้กม.ละ 5 สต.ดีเดย์ 4 ก.ค.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

อ่วมกันระนาว ! ไฟเขียวขึ้นค่าโดยสารทัวร์-รถตู้กม.ละ 5 สต.ดีเดย์ 4 ก.ค.นี้

คณะกรรมการควบคุมการขนทางบกกลางไฟเขียวปรับขึ้นค่าโดยสารรถหมวด 2-3 อีกกม.ละ 5 สตางค์  ดีเดย์ 4 ก.ค.นี้  สกัดหยุดเดินรถ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมีมติให้ปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารรถโดยสารประจำทาง หมวด 2 (เส้นทางที่มีต้นทางจากกรุงเทพมหานครไปยังต่างจังหวัด)  และหมวด 3 (เส้นทางระหว่างจังหวัดที่ไม่มีกรุงเทพมหานครเป็นต้นทางปลายทาง) อัตรากิโลเมตรละ 5 สตางค์มีผล 4 ก.ค.นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันปัจจุบันราคาลิตรละ 34.99 บาท  แต่ราคาค่าโดยสารขณะนี้คิดต้นทุนน้ำมันที่ลิตรละ 27.09 บาท 

สำหรับรถโดยสารประจำทางในส่วนภูมิภาคที่วิ่งภายในจังหวัดให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัด พิจารณาอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภายในจังหวัด 

นอกจากนี้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางได้กำชับกรมการขนส่งทางบกดูแลผู้ประกอบการให้จัดการเดินรถเป็นไปตามเงื่อนไข และสอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางของประชาชน 

อย่างไรก็ตาม ขนส่งได้ประสานสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทยและสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร ให้แจ้งสมาชิกจัดการเดินรถให้เป็นไปตามเงื่อนไขและสอดคล้องกับความต้องการเดินทางของประชาชนต่อไป

ด้านนายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมทำหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบการขนส่งเอกชน และรถร่วม บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ทราบว่า คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว  ซึ่งการที่รัฐช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการธุรกิจต่อไปได้ ในสภาวะที่เกิดวิกฤติน้ำมันแพง 

 ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์จะปรับลดเที่ยววิ่ง 80% ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหวนั้น ขอให้ทุกบริษัทยกเลิกแผนดำเนินการดังกล่าว และจัดเดินรถตามปกติ สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารต่อไป โดยเฉพาะในเดือน ก.ค.นี้ ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน คาดว่าผู้โดยสารจะใช้รถโดยสารในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก

 นอกจากนี้ขอให้ผู้ประกอบการตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนใช้งานด้วย โดยเฉพาะกรณีที่ไม่ได้ใช้รถโดยสารเป็นเวลานาน มีจอดนิ่งหรือได้หยุดเดินรถ ต้องมีการบำรุงรักษาให้เรียบร้อยก่อนนำมาให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยกับผู้โดยสาร

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img