นักลงทุนจับตาประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ ชี้ชะตาตลาดหุ้นโลก หากออกมามากกว่าคาด 8.8%กด ดัชนีร่วง มองแนวโน้มหุ้นไทยเสี่ยงผันผวนขาลง แนะลงทุนระยะกลางช่วง 3 เดือน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขึ้นกับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ประกาศในคืนนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้ามากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 8.8% YOY ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% หรือมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ แต่ถ้าทรงตัวหรือน้อยกว่าคาดจะหนุนให้ตลาดหุ้นฟื้นตัว
นอกจากนี้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นปัจจัยหนึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากสุดในรอบ 20 ปีเป็นปัจจัยที่กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
ทั้งนี้คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินโดยกนง.จะมีการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมเดือนสิงหาคมนี้เพื่อให้ส่วนต่างของดอกเบี้ยสหรัฐและไทยไม่ห่างกันมากเกินไป และทำให้ค่าเงินบาทผ่อนคลายการอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ติดตามนายโจ ไบเดนประธานาธิบดีสหรัฐบินไปซาอุดิอาระเบียต้องดูว่ามาตรการที่หารือมีอะไรบ้าง รวมถึงการประกาศงบบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯไตรมาส 2 และไทยในไตรมาส 2 เช่นกันโควิดที่แพร่ระบาดในจีนและตัวเลขโควิดไทยหลังจากตัวเลขพุ่งขึ้นแต่เชื่อว่าคงจะไม่รุนแรงเหมือนกับก่อนหน้านี้ โดยเห็นว่านักลงทุนมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจถดถอยมากกว่า
ด้านกลยุทธ์การลงทุนเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/65ออกมาดี เป็นหุ้นมี Story เน้นหุ้นกลุ่ม defensive เพราะตลาดผันผวนถ้าไม่ขายหุ้นในช่วงที่ปรับตัวขึ้นและถือไว้เมื่อตลาดปรับฐานจะขาดทุน ดังนั้นต้องหมุนรอบเล่นระยะสั้นถ้าไม่ทันเวลาจะขาดทุน จึงแนะนำลงทุนระยะกลางช่วง 3 เดือนขึ้นไปจะดีกว่าเพื่อลดความผันผวน เน้นหุ้นโรงพยาบาล และค้าปลีก