“ไตรรงค์”ถามใครกันแน่ที่เถื่อน ชี้ปมนายกฯ 8 ปีหากศาลรธน.วินิจฉัยออกมาอย่างไร ต้องยอมรับ ยกเคส “โจ ไบเดน”ถูกม็อบคนเถื่อนปลุกระดมจนสร้างความเสื่อมเสียให้ประเทศ เตือนพ.ย.65 กำลังจะมีประชุม APEC รอมา20ปี ต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้ประเทศ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ใครกันแน่ที่เถื่อน
.เมื่อตอนนายโจไบเดน (Joe Biden) ได้รับเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ (Electoral Vote) ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายของสหรัฐอเมริกา รัฐสภาจะต้องรับรองผลการเลือกตั้งดังกล่าวเสียก่อน โจ ไบเดน จึงจะสามารถเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ได้ แต่ผู้แพ้เลือกตั้งคือ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ปลุกระดมกล่าวหาว่าเขาถูกโกงการเลือกตั้งทั้งๆที่คณะกรรมการเลือกตั้งและศาลได้พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า “ไม่มีการโกง” แต่ด้วยคำโกหกดังกล่าวของนายทรัมป์ได้ปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนตัวเขาได้ก่อม็อบเดินขบวนเข้าไปยึดอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการรับรองผลการเลือกตั้ง (เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564) จึงเกิดมีการทำลายข้าวของในรัฐสภา ทำร้ายเจ้าหน้าที่และตำรวจสภาฯจนเกิดการยิงกันตายไปหลายศพและถูกจับกุมไปดำเนินคดีกันเป็นจำนวนมาก
การกระทำของ #ม็อบคนเถื่อน เหล่านั้นได้ทำลายชื่อเสียงและเกียรติภูมิของสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำการปกครองในระบอบประชาธิปไตยไปทั่วโลก เพราะเป็นการเปิดเผยให้เห็นว่า มีคนอเมริกันจำนวนไม่น้อยที่ยังมีจิตใจป่าเถื่อนไม่มีความเป็นอารยะ กล่าวคือพร้อมจะใช้ความรุนแรงกับทุกฝ่ายโดยไม่ยำเกรงและเคารพกฎหมาย เพียงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ แม้ว่าสิ่งนั้นจะสวนทางกับความต้องการส่วนใหญ่ของประชาชนในประเทศก็ตาม จึงเรียกได้เต็มปากว่าพวกนี้เป็นพวกบูชาระบบ “อนาธิปไตย” ไม่ใช่บูชาระบบ “ประชาธิปไตย” ตามอารยธรรมที่พวกเขาใช้ประกาศกันในการหาเสียงระหว่างการเลือกตั้ง (ซึ่งมันสะท้อนออกมาในรูปของนโยบายต่างประเทศและนโยบายกลาโหมตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน)
มีอยู่หลายครั้งในหลายๆ ประเทศที่เมื่อศาลสถิตยุติธรรม หรือศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำพิพากษา ที่ไม่ตรงกับผลประโยชน์ที่พวกตนต้องการ ผู้ถูกศาลลงโทษ (ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง) ก็จะแหกปากตำหนิติเตียนศาลฯว่าเป็นผู้ที่มิได้มาจากการเลือกตั้งเหมือนพวกตน มีความชอบธรรมอะไรจึงมาพิพากษาลงโทษพวกตนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถ้าหยุดคิดเสียสักหน่อยก็ควรจะได้สติกันว่าการเลือกตั้งนั้นเป็นเพียงการบ่งบอกถึงความชอบหรือไม่ชอบของประชาชน แต่จะนำผลการเลือกตั้งนั้นมาใช้กับกระบวนการยุติธรรมย่อมไม่ได้ เพราะการพิจารณาของทุกศาลทุกแบบล้วนอาศัยหลักกฎหมายที่ประกอบด้วยทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงไม่มีอะไรเกี่ยวกับความชอบหรือไม่ชอบของประชาชน ถ้าศาลฯลงโทษผู้ใดก็โปรดเชื่อเถอะว่าศาลได้ใช้ดุลยพินิจด้วยความรอบคอบตามหลักข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพราะมีหลักกฎหมายที่ใช้กันทั่วโลกมาเป็นพันปีแล้วอยู่ข้อหนึ่งก็คือ “บุคคลจะไม่ต้องรับโทษถ้าไม่มีกฎหมายกำหนดเอาไว้”
ในประเทศเสรีประชาธิปไตยประชาชนที่เป็นอารยะต้องมีมากกว่าประชาชนที่เป็นอนารยะ(ป่าเถื่อน) ประเทศทั้งหลายถึงสามารถเดินหน้าไปได้ด้วยความราบรื่น โดยอาศัยคนส่วนใหญ่ยังยึดหลักนิติธรรมเป็นใหญ่เอาไว้ด้วยความมั่นคง การพิจารณาของศาลทุกขั้นตอน (ของทุกๆศาล) ต้องปราศจากความกดดันใดๆ ของทุกๆ ฝ่ายทั้งจากนักการเมือง พรรคการเมือง และกลุ่มม็อบทุกชนิด
.คำพิพากษาถึงที่สุดออกมาเป็นเช่นใดทุกฝ่ายต้องยอมรับว่ามันเป็นคำตอบสุดท้ายของแผ่นดิน (The last words of the nation) บ้านเมืองจึงจะสามารถเดินก้าวหน้าไปได้ด้วยความสงบ อันเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่จะทำให้ประเทศของเรา ได้รับความนับถือศรัทธาจากประเทศอื่นๆทั่วโลก จะช่วยทำให้ใครๆก็อยากมาค้าขายและลงทุนกับประเทศที่ยังยึดหลัก “นิติธรรม” ไว้อย่างมั่นคง
APEC กำลังจะมีการประชุมในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2565 คนไทยที่รักชาติจริงจึงควรจะช่วยทำให้ประเทศเรียบร้อยไม่สับสนวุ่นวายเหมือนมีจลาจลอย่างไม่รู้จักหยุดไม่รู้จักหย่อน เพราะ APEC ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องเศรษฐกิจว่าด้วยเรื่องการค้าขาย การท่องเที่ยวและการพัฒนาด้านสังคมในทุกๆด้าน ที่ประเทศสมาชิกจาก 21 เขตเศรษฐกิจจะได้มาทำการตกลงกัน
คนไทยทุกคนจึง #ควรจะช่วยกัน สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับประเทศก็เพื่อชาติและประชาชนทั้งมวลจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการประชุมดังกล่าว อย่าลืมว่าเรารอโอกาสนี้มา 20 ปีแล้วนะครับ