“กรณ์”เผยลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคกล้าและสม้ครเข้าเป็นสมาชิก พรรคชาติพัฒนาเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับขอบคุณ “ศรีสุวรรณ”ช่วยคลายปมให้คนเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ยืนยันปฏิบัติตามขั้นตอนทุกประการ
จากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอให้ กกต. ดำเนินการไต่สวน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และนายกรณ์ จาติกวณิช สมาชิกและหัวหน้าพรรคกล้า ภายหลังทั้งคู่แถลงข่าวจับมือทางการเมือง โดยนายกรณ์ จะเข้ามาเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคและอาจเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ทั้งๆ ที่ยังมีสถานะเป็นสมาชิกและหัวหน้าพรรคกล้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคชาติพัฒนายินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกสมาชิกพรรคเข้ามาครอบงำ ชี้นำพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมืองมีโทษจำคุก 5-10 ปี และปรับ 1-2 แสนบาท หรือทั้งจับทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ ซึ่งเป็นบทลงโทษที่ชัดเจนตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ก.ย.นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องขอบคุณพี่ศรีฯ จากใจเลยครับที่ช่วยคลายปมให้คนเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร และทำไมผมถึงต้องเคลื่อนไหวตามจังหวะและขั้นตอนด้วยความจำเป็นเร่งด่วนตามที่ปรากฎ ทั้งหมดก็เพราะข้อจำกัดทางกฎหมายที่ผมยอมรับว่า.. ทำให้ผู้สนับสนุนต้องสับสนไปด้วย ผมต้องขอโทษทุกคนในจุดนี้ด้วยนะครับ
แต่ขอให้เชื่อมั่นว่า เมื่อขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่างลุล่วงแล้ว ทุกคนจะได้เห็นในพลังของความแข็งแกร่งในการทำงานการเมืองสร้างสรรค์ มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาพัฒนาชาติในด้านเศรษฐกิจที่เข้มข้นกว่าเดิมแน่นอน
วันนี้พี่ศรีได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกต.ว่า ผมอาจจะมีพฤติกรรมพยายามครอบงำการทำงานของพรรคชาติพัฒนาในฐานะสมาชิกพรรคกล้า ในวันที่ผมแถลงร่วมกับคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภนั้น
ผมขอชี้แจงสั้นๆ ว่า.. ผมได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคกล้า และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมตระหนักในประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องทุกประการครับ.
ผมมั่นใจว่า ผมจะสามารถลงมือทำงานรับใช้บ้านเมือง และบริหารงานเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
อดใจรอไม่นานครับ