“กรณ์”แนะรัฐบาลอย่าสร้างความตื่นตูม ปมค่าเงินแค่เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่วิกฤติ

‘กรณ์’แนะรัฐบาลอย่าสร้างความตื่นตูมปมค่าเงิน แค่เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่วิกฤติ แนะรัฐพยุงกลุ่มเปราะบาง

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 3 -3.25 เปอร์เซ็นต์ ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) อเมริกาเพิ่มดอกเบี้ยอย่างแรงอีก 0.75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยกับไทยเพิ่มเป็นเกือบ 3 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ตลาดคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยอเมริกาต้องขึ้นอีก 1 เปอร์เซ็นต์ เต็มภายในปีนี้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน เรื่องนี้เป็นปัญหา แต่ไม่ใช่เป็นวิกฤติ โดยวิกฤติจะเกิดขึ้นได้ หากเราประกาศปักหลักสู้กับดอลลาร์ด้วยการกำหนดเป้าอัตราแลกเปลี่ยนที่สวนสภาวะตลาด ไม่ว่าเป้านั้นจะเป็น 35 บาทหรือเท่าไรก็ตาม

“ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยกับอเมริกา จะมีผลต่อเงินบาทแน่นอน จนกว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะชะลอตัวลง จนทำให้เงินเฟ้อของเขาลดลงและดอกเบี้ยเขาปรับลดลงได้ ซึ่งอย่างเร็วคือปีหน้า และเมื่อเศรษฐกิจของเขาชะลอตัวลง เราจึงจะได้อานิสงส์จากราคานํ้ามันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลายที่ควรจะลดลง หากเป็นเช่นนั้น เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเอง โดยเฉพาะหากดุลบัญชีเดินสะพัดเราดีขึ้น และกลับมาเป็นบวกจากต้นทุนการนำเข้าที่ลดลง และรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น”นายกรณ์ กล่าว

อดีต รมว.คลัง กล่าวอีกว่า อย่าสร้างความตื่นตระหนกด้วยการคิดว่าเงินบาทต้องเป็นเท่านั้นเท่านี้ โดยค่าเงินบาทอยู่ที่ 37 บาท จะไม่ทำให้เกิดวิกฤติแบบต้มยำกุ้ง โดยทุนสำรองของเราสูง หนี้สาธารณะเราเอาอยู่ และวันนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็ง ไม่ใช่เงินบาทอ่อน สำหรับสิ่งที่ต้องทำคือช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูง และช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ต้องติดแบล็คลิสต์จนหมดโอกาสฟื้นตัว แม้เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น