ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 10.46 จุด สอดรับตลาดหุ้นภูมิภาคแดงยกแผง ผนวกแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน แบงก์ ค้าปลีกและอาหารกดดัชนีดิ่ง มองแนวโน้มพรุ่งนี้ร่วงต่อจากเงินทุนไหลออก เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก หรือ GBS เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิด 1,621.25 จุด ลบ 10.46 จุด หรือ -0.64 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,627.95 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,615.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 71,260.06 ล้านบาทว่าตลาดหุ้นไทยปิดร่วงสอดรับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดแดงยกแผง จากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลกดดันต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวลง
สำหรับหุ้นที่กดตลาดเป็นกลุ่ม พลังงาน แบงก์ ค้าปลีกและอาหารนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,918.96 ล้านบาทสถาบันในประเทศขายสุทธิ 105.59 ล้านบาทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 113.23 ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 1,911.32ล้านบาท
ส่วนปัจจัยจับตาในประเทศ
-27 ก.ย. ธนาคารโลก สรุป ข้อมูล เศรษฐกจิเอเชียตะวันออกและแปซิฟิิก
-28 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(กนง.) ครั้งที่ 5/65
-30 ก.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และปิดงวดงบการเงิน ไตรมาสที่ 3/2565
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
-26 ก.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนส.ค.
-27 ก.ย. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย
-28 ก.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจาก Fund Flow ไหลออกและคาดการณ์ว่าการประชุม กนง. 28 ก.ย.ที่จะถึงนี้ จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25-0.50% กดดันต่อดัชนี คำแนะนำ หากรีบาวด์ไม่ผ่าน 1,629 จุดให้ลดสถานะประเมินกรอบแนวรับแรกที่ 1,614 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,607 จุดแนวต้านแรกที่ 1,629 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,636 จุด