ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 18.96 จุด สอดรับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดเขียวยกแผง ผนวกแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ หนุนการซื้อขายวันนี้คึกคัก มองแนวโน้มพรุ่งนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง ประเมินกรอบแนวรับ 1,580 จุด แนวต้านที่ 1,620 จุด
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึง ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ1,590.36 จุด บวก 18.96 จุด หรือ 1.21 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,594.68 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,576.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63,968.18 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกสอดรับกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดเขียว เช่น ฮ่องกงบวก 1.8% ญี่ปุ่นบวก 1.4% ไต้หวันบวก 1.2% โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 3 ประเด็นหลักคือ 1.คลายกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังจากนักลงทุนซึมซับพัฒนาการไปก่อนหน้านี้แล้ว
2.เงินเฟ้อก.ย.ของสหรัฐฯ แม้จะอยู่ที่ระดับ 8.2% แต่เป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง และ3.การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดแตะเพดาน 5% หลังจากนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะชะลอตัวลง ซึ่งที่ผ่านมาตลาดรับรู้ไประดับหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้หุ้นขนาดใหญ่ดันตลาดหลังจากลงลึก เช่น GULF บวก 3.1% MINT บวก 7.2% และหุ้นที่อิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจ เช่น CPN บวก 3.5% HMPRO บวก 3% สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนว่าจะมีนโยบายการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของจีนหรือไม่
รวมถึงการรายงานงบไตรมาส 3/65 ของธนาคารพาณิชย์ซึ่งจากข้อมูลของฝ่ายวิจัยที่ครอบคลุมธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งพบว่ากำไรสุทธิ 5.2หมื่นล้าน โต 1.7% MOM และโต 26.7% ถ้าเทียบ YOY เนื่องจากเป็นช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด ส่วนสัปดาห์หน้าเป็นการประกาศงบกลุ่มเรียลเซกเตอร์
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นที่เหลือของสัปดาห์ยังบวกต่อ เนื่องจาก PE ที่ลงมาน่าสนใจเข้าไปลงทุน จากปัจจุบันในตลาดอยู่ที่ 17 เท่า ซึ่งหากหักหุ้นขนาดใหญ่จะทำให้เหลือ PE เพียง 14 เท่ากว่า และที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงมากแล้วและจากนี้ไปมีโอกาสฟื้นตัว ประเมินกรอบแนวรับ 1,580 จุด แนวต้านที่ 1,620 จุด