ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 9.34 จุด แรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปดันตลาด จับตาประกาศจีดีพีจีน มองแนวโน้มพรุ่งนี้ไปต่อ ประเมินกรอบแนวรับ 1,580 จุด แนวต้านที่ 1,610-1,620 จุด
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึง ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,600.66 จุด บวก 9.34 จุด หรือ 0.59% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,602.88 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,593.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64,622.51 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกแรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดสาขากังวลเร่องเศรษฐกิจถดถอย
สำหรับหุ้นที่ดันตลาดวันนี้เป็นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น DELTA 6.4% BDMS 1.7% SCC 1.87% KTB 2.91% ส่วนมูลค่าการซื้อขายพบว่านักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,274.69 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,026.52 ล้านบาทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 45.25 ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ 202.92 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดตลาดมีทั้งบวกและลบสลับกัน หลังจากที่เมื่อวานนี้ที่ไทยปิดตลาดบวกแรง เช่น ญี่ปุ่นบวก 1%หลัง BOJ ประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นแบบฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 (โดยจะเข้าซื้อพันธบัตรอายุระหว่าง 10-25 ปี ในวงเงิน 1แสนล้านเยน หรือประมาณ 665.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ออสเตรเลียบวก 0.3%ส่วนเกาหลีใต้ลบ 0.1% ฮ่องกงลบ 0.1%
ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามคือตัวเลขจีดีพีของจีนในไตรมาส 3 ที่จะประกาศพฤหัสบดีนี้ คาดว่าโต 2.3% หลังจากไตรมาส 1ติดลบ 1.6% และไตรมาส 2 ติดลบ 0.6% รวมถึงการประกาศงบไตรมาส 3 ของเรียลเซกเตอร์ มองแนวโน้มพรุ่งนี้หุ้นไทยไปต่อเนื่องจาก ในช่วงที่ผ่านมา SET Index ถูกปัจจัยภายนอกกดดันจนล่าสุด PBV ลดลงมาเหลือ 1.59เท่า (ช่วงปลายปีที่แล้ว PBV 1.79 เท่า) ถือว่าภาพรวม Valuation ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ ขณะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วง Recovery แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ยังมีความกังวล Recession สูง ลักษณะดังกล่าวน่าจะพอมีหุ้น Deep Value ที่น่าสะสมเพื่อเป็นเกราะป้องกันความผันผวนจากปัจจัยภายนอก และหวังผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาวได้ มองกรอบแนวรับ 1,580 จุด แนวต้านที่ 1,610-1,620 จุด