วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“นายกฯ”มั่นใจนโยบาย “LTR Visa” ดึง“ต่างชาติ”ที่มีศักยภาพสูงเข้าไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นายกฯ”มั่นใจนโยบาย “LTR Visa” ดึง“ต่างชาติ”ที่มีศักยภาพสูงเข้าไทย

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เชื่อมั่นนโยบายสนับสนุนเปิดรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงพำนักในประเทศไทย LTR Visa จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ ดึงดูดชาวต่างชาติในหลากหลายกลุ่มให้มาพำนัก และลงทุนในไทยระยะยาว หลังเดือนครึ่งมีผู้สมัครกว่าหนึ่งพันคน

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้รายงานตัวเลขผู้ขอยื่นขอใบสมัครวีซ่าระยะยาว (Long-Term Resident Visa) หรือ “LTR Visa” ของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2565 มีผู้สมัครกว่าหนึ่งพันคน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการลงทุนโดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพ น่าลงทุน และเป็นที่นิยม โดยถือเป็นเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ให้วีซ่าระยะยาวแก่ชาวต่างชาติมีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม พำนักในประเทศไทยในระยะยาว โดยมีเป้าหมายดึงดูด 1 ล้านคน ใน 5 ปี โดยได้เริ่มรับสมัครชาวต่างชาติในกลุ่มนี้แล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

จากสถิติ ประเทศที่มีการยื่นขอใบสมัครมากที่สุดได้แก่ สหรัฐฯ 232 ราย จีน 140 ราย สหราชอาณาจักร 109 ราย เยอรมนี 68 ราย และออสเตรเลีย 51 ราย ตามลำดับ สามารถแบ่งตามกลุ่มได้ดังนี้ 1.) กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizens) มีผู้ยื่นใบสมัครแล้ว 88 คน คิดเป็น 8% 2.) ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioner) มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 430 คน คิดเป็น 37% 3.) ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work from Thailand) มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 366 คน คิดเป็น 32% 4.) ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (Highly Skilled Professionals) มีผู้สมัครมาแล้ว 160 คน คิดเป็น 14% และ 5.) ที่เหลือเป็นกลุ่มของคู่สมรส และบุตรของผู้ที่ต้องการทำงานและพำนักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 144 คน คิดเป็น 14%

“นายกรัฐมนตรีใช้ความได้เปรียบของประเทศไทย ทั้งทางเศรษฐกิจจากการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แรงงานที่มีฝีมือ และความได้เปรียบทางสังคม เพราะประเทศไทยมีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ ปลอดภัย น่าพำนักอาศัย นำมาดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในหลากหลายกลุ่ม โดยมุ่งหวังว่าจะกระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน ช่วยผลักดันความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัว โดยวีซ่าประเภทใหม่นี้จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดึงดูดกลุ่มนักลงทุน ผู้มีความพร้อม มีทักษะ และความเชี่ยวชาญสูงให้เข้ามาพำนักในประเทศไทย” นายอนุชา กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img