“พาณิชย์” เผยเงินเฟ้อเดือนต.ค.65 เพิ่มขึ้นเพียง 5.98% ชะลอตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน ตามการลดลงของราคากลุ่มอาหารและพลังงาน คาดแนวโน้มเดือนพ.ย.-ธ.ค. ชะลอตัวลงอีก ประเมินทั้งปี 5.5-6.5%
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนต.ค.2565 เท่ากับ 108.06 เทียบกับก.ย.2565 เพิ่มขึ้น 0.33% เทียบกับเดือนต.ค.2564 เพิ่มขึ้น 5.98% ลดลงจากเดือนก.ย.2565 ที่สูงขึ้นถึง 6.41% และลดจากส.ค.2565 ที่สูงขึ้น 7.86% เป็นการชะลอตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน ตามการลดลงของสินค้ากลุ่มพลังงาน และอาหาร จากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกันดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน การกำกับดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้าชะลอตัวลงจากที่เคยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และอัตราเงินเฟ้อรวม 10 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 6.15%
สำหรับเงินเฟ้อเดือนต.ค.2565 ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 9.58% โดยกลุ่มอาหารสด ราคายังเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง เช่น เนื้อสุกร ไก่สด ต้นหอม ผักบุ้ง ส้มเขียวหวาน แตงโม น้ำมันพืช ซีอิ๊ว น้ำพริกแกง ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น แป้งข้าวเจ้า ผักกาดขาว ผักคะน้า ผักชี ขึ้นฉ่าย กล้วยน้ำว้า มะพร้าวผลแห้ง ขูด และมะขามเปียก เป็นต้น สำหรับหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 3.56% ตามการสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวของกลุ่มพลังงาน เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งค่ายาและเวชภัณฑ์ ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ที่ราคาชะลอตัวลง ส่วนสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง เช่น ยาสมุนไพร ยาแผนโบราณ หน้ากากอนามัย แป้งผัดหน้า เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า เป็นต้น
“เงินเฟ้อของไทย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในโลก ไม่ว่าจะเป็นในอาเซียน เช่น สปป.ลาว สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ และประเทศสำคัญ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี และอินเดีย รวมถึงสหรัฐฯ เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นไม่สูงมากนัก ถ้าดูตามสถิติการเก็บเงินเฟ้อของโลกที่มีอยู่ 135 ประเทศ เงินเฟ้อไทยต่ำอยู่ในลำดับ 107 ซึ่งแสดงว่าเงินเฟ้อไทยไม่ได้สูงจนเกินไป”นายพูนพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับก.ย.2565 และเพิ่มขึ้น 3.17% เมื่อเทียบกับต.ค.2564 และเฉลี่ย 10 เดือน เพิ่ม 2.35%
ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนพ.ย.-ธ.ค.2565 ที่เหลืออีก 2 เดือน สนค.คาดว่าจะยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าไม่น่าจะถึง 6% หรือใกล้เคียง 6% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพหลายรายการชะลอตัวลง และบางรายการราคาทรงตัว แม้ว่าต้นทุนจะสูงขึ้น เนื่องจากมาตรการดูแลค่าครองชีพของภาครัฐ ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้สินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดมากขึ้น แต่ก็ต้องจับตาราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มสูงขึ้น รวมถึงเงินบาทที่ยังอ่อนค่า โดยสนค.ประเมินว่า เงินเฟ้อทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ระดับ 5.5-6.5% มีค่ากลางที่ 6.0%