กทพ.กางแผนศึกษาโครงการทางด่วน 2 ชั้น “งามวงศ์วาน-พระราม 9” 17 กม.วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท คาดออกแบบเสร็จ ธ.ค.65 พร้อมเปิดโต๊ะเจรจา BEM ลงทุนก่อสร้าง แก้คอขวดทางด่วนขั้นที่ 2 คาด มิ.ย. 66 ชงครม.อนุมัติ
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ)โครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (งามวงศ์วาน-พระราม 9) ภายใต้งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษ ระยะที่ 1 เพื่อนำเสนอความเป็นมาของโครงการ วัตถุประสงค์ในการพัฒนาโครงการ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการพัฒนาโครงการ ขอบเขตการศึกษา
ตลอดจนข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ พร้อมกันนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้เข้าร่วมประชุมร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างข้อเสนอโครงการ ขอบเขตการศึกษา และการประเมินทางเลือกโครงการ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กทพ. อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมและเป็นไปได้ของโครงการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษศรีรัช ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 ระยะทางประมาณ 17 กม. โดยเฉพาะต่างระดับพญาไท
ซึ่งประสบปัญหาการจราจรอย่างหนักเข้าขั้นวิกฤตทั้งในและนอกช่วงเวลาเร่งด่วน เนื่องจาก มีปริมาณจราจรเฉลี่ยกว่า 4 แสนคัน/วัน ในขณะที่เส้นทางมีความจุประมาณ 3 แสนกว่าคัน/วัน ทำให้ต้องรับภาระด้านการจราจรทั้งหมดจากความต้องการเดินทางในแนวตะวันออก-ตะวันตก และแนวเหนือ-ใต้บนโครงข่ายทางพิเศษในพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นในและชั้นกลาง
โดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2565 มีมติรับทราบผลการศึกษาโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรบนทางด่วนในภาพรวมทั้งระบบ ตามที่ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบโดยกทพ. ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา กลุ่มบริษัท พีเอสเค คอนซัลแทนส์ จำกัด ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมโครงการฯ มีระยะเวลาการศึกษาประมาณ 450 วัน (มิ.ย.65-ส.ค.66) ซึ่งคาดว่า จะสรุปผลทั้งหมดภายในครึ่งแรก ปี 2566 โดยจะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.พิจารณา และเสนอครม.เห็นชอบในเดือน มิ.ย. 2566
ในขณะเดียวกัน จะนำเสนอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ คชก. ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 และได้รับความเห็นชอบปลายปี 2566
โดยในการศึกษา จะดูความเป็นไปได้ทางวิศวกรรม ความคุ้มค่าทางการเงิน รูปแบบ การก่อสร้าง การลงทุน พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ได้รับผลกระทบทั้งระหว่างการก่อสร้าง ( ก่อสร้าง 4 ปี )และหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากเมื่อมีทางด่วนชั้นที่ 2 ลักษณะทางกายภาพจะเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นโครงการมีมูลค่าลงทุนประมาณ 30,000ล้านบาทโดยต้องก่อสร้างซ้อนบนโครงข่ายทางด่วนปัจจุบันบางช่วงมีความสูงถึง 19เมตรจึงมีค่าลงทุนสูงและก่อสร้างค่อนข้างยากในขณะที่ปริมาณจราจรจะแบ่งมาจากผู้ใช้ทางด่วนเดิมจึงประเมินว่า ผลตอบแทนการเงินอาจไม่สูงมาก โดยมี EIRRประมาณ 16% แต่เป้าหมายหลักคือต้องการแก้ปัญหาจราจรดังนั้นการดำเนินการรูปแบบใดต้องพิจารณาในทุกมิติอย่างครบถ้วน
ซึ่งขณะนี้ มี 2 ทางเลือก ในการดำเนินการ คือ 1. กทพ.ดำเนินการก่อสร้างเองโดยใช้เงินกู้ 2. ให้เอกชนมาร่วมลงทุน และจัดเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งแนวทางที่ 2 ต้องพิจารณากรณีมีเอกชนรายอื่นเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งอาจจะกระทบกับการบริการ และซับซ้อนกับสัญญาสัมปทานของทางด่วนเดิม ดังนั้น จะต้องนำข้อดีข้อเสีย หารือต่อผู้มีอำนาจพิจารณา
ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการคือ เจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ให้ก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 และเก็บค่าผ่านทาง โดยมีการเจรจาขยายสัญญาสัมปทานเดิมที่เหมาะสม
“ทางด่วน2 ชั้น จะเป็นการแยกจราจรบริเวณจุดทางแยกให้ชัดเจน แก้ปัญหาจราจรตรงจุดแบบเบ็ดเสร็จ ตรงต่างระดับพญาไท (แยกตัวY) คาดว่าประชาชนจะตอบรับโครงการ ส่วนการออกแบบจะแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.2565 จากนั้น จะเข้าสู่การเจรจา ตามแนวทางการศึกษา โดยจะสรุปและนำเสนอบอร์ด กทพ.และครม.พิจารณาต่อไป”
โดยพื้นที่ศึกษาครอบคลุมใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จำนวน 1 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 เขต ได้แก่ เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตพญาไท เขตดุสิต เขตราชเทวี เขตดินแดง และเขตห้วยขวาง แนวสายทาง เหนือ-ตะวันออก (ประชาชื่น-พญาไท-อโศก) มีจุดเริ่มต้นบริเวณทางแยกต่างระดับงามวงศ์วาน เลี้ยวซ้ายไปทางทิศตะวันออกบริเวณทางแยกต่างระดับพญาไทผ่านทางแยกต่างระดับมักกะสันและมีจุดสิ้นสุดโครงการที่บริเวณหลังด่านเก็บค่าผ่านทางอโศก 4 รวมระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร
โดยโครงการ จะยกระดับซ้อนบนทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2 ) มีขนาด4 ช่องจราจร (2 ช่องจราจร ต่อทิศทาง) มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 2 แห่งคือการประชาชื่นและด่านมักกะสัน มีทางขึ้น 3แห่งได้แก่ งามวงศ์วาน( ขาเข้าเมือง) , บางซื่อย่านพหลโยธิน (ขาเข้าเมือง) , อโศก (ขาเข้าเมือง) มีทางลงสู่ทางด่วน 4 แห่ง ได้แก่ งามวงศ์วาน (ขาออกเมือง) บางซื่อ ย่านพหลโยธิน (ขาออกเมือง) มักกะสัน (ขาออกเมือง) อโศก (ขาออกเมือง)