จับตาครม.พิจารณาของขวัญปีใหม่ให้คนไทย เน้นกระตุ้นใช้จ่ายและท่องเที่ยว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการของขวัญปีใหม่ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ธ.ค.นี้ พิจารณา ส่วนจะมีโครงการคนละครึ่ง เฟส 6 หรือไม่ “ขอให้รอดู” พร้อมเตรียมเสนอ “ช้อปดีมีคืน 2566” ให้ ครม.พิจารณาด้วย โดยกำหนดให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า และบริการมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง วงเงินสูงสุด 40,000 บาท คาดกรมสรรพากร จะสูญเสียรายได้ 8,200 ล้านบาท
นนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า พร้อมเสนอ 3 มาตรการให้ ครม. วันที่ 20 ธ.ค.65 พิจารณา ได้แก่ ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. และขอจัดสรรงบประมาณ 8,700 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 มอบเป็นของขวัญปีใหม่ ปี 66 จำนวน 5,400 ล้านบาท และอีก 3,300 ล้านบาทนำมากระตุ้นการท่องเที่ยว ทดแทนบูสเตอร์ช็อตเดิมที่เคยเสนอขอไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ
สำหรับการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 หาก ครม.อนุมัติ คาดจะเปิดดำเนินการได้เดือน ม.ค.66 โดยจะนำร่องที่ถนนบางลา อ.กระทู้ จ.ภูเก็ตก่อน ซึ่งหลังจากเปิดดำเนินการแล้ว 6 เดือนจะเปิดรับฟังความเห็นจากคนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อฟังผลตอบรับ “ที่เลือกถนนบางลานำร่อง เพราะมากกว่า 70% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจากสถิติล่าสุด จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับพบว่า ภูเก็ต อยู่อันดับ 1 มียอดการใช้จ่าย 127,927 ล้านบาท สะท้อนว่านักท่องเที่ยวนิยมไปภูเก็ต ประกอบกับผลวิจัยของ 3 สถาบัน ชี้ชัดว่า การขยายเวลาปิดสถานบันเทิงจากเวลา 02.00 น. เป็น 04.00 น. จะมีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 25% หากพื้นที่นำร่องประสบผลสำเร็จ จะขยายผลต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ”
ส่วนงบกระตุ้นท่องเที่ยว 3,300 ล้านบาท จะเน้นทำการตลาด และดึงนักท่องเที่ยวแข่งกับประเทศอื่น เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยถึง 20 ล้านคนในปี 66 ตามเป้าหมาย และดึงรายได้ให้กลับมา 80% ของปี 62 “งบที่เสนอขอ 3,300 ล้านบาท จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคน หรือ 25% ของเป้าหมาย 20 ล้านคน โดยหวังว่าจะทำให้เพิ่มเป็น 25 ล้านคนได้ และหากมีรายได้จากการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงเพิ่มอีก 25% เมื่อรวมกันแล้ว ปี 66 มีโอกาสที่จะมีรายได้ 3.165 ล้านล้านบาท ทำให้มีรายได้กลับมา 80% ของรายได้ปี 62 ก่อนเกิดโควิด-19”.
