“แบงก์กสิกรไทย” ประเมินกรอบค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในระดับ 32.50-33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาผลประชุมเฟด 1 ก.พ.นี้ รวมถึงประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ
รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (30 ม.ค.-3 ก.พ.) ไว้ที่ระดับ 32.50-33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐฯ และผลประชุมเฟด (31 ม.ค.-1ก.พ.) ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือECB และธนาคารกลางอังกฤษหรือ BOE ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนธันวาคม ของไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี ISM ภาคการผลิตและบริการเดือนมกราคม ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธันวาคม และดัชนีราคาบ้านเดือนพฤศจิกายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการเดือนมกราคม ของจีน ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 อัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคม ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน
ขณะที่เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนทยอยอ่อนค่าลงช่วงปลายสัปดาห์ โดยช่วงต้นสัปดาห์เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 32.57 บาทต่อดอลลาร์ ตามทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ส่วนเงินดอลลาร์ขาดแรงหนุนท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับจังหวะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน และเงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มเติม หลังจากที่ตลาดทยอยประเมินความเป็นไปได้ที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของไทยในรอบการประชุมถัดๆ ไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เงินบาทอ่อนค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์มีปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จีดีพีในไตรมาส 4/65 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งโอกาสที่เฟดจะส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินในหลายๆ รอบการประชุมข้างหน้า
