“พาณิชย์” เผยตัวเลขส่งออกข้าวปี 2565 มีปริมาณ 7.69 ล้านตัน โกยรายได้ 1.3 แสนล้าน “อิรัก” แชมป์
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยปี 2565 อยู่ที่ 7.69 ล้านตัน โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการส่งออกสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7.5 ล้านตัน ขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 138,451.8 ล้านบาท คิดเป็น 3,970.9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 26.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เฉลี่ย 38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยปริมาณ ขณะที่ตลาดส่งออก 5 อันดับแรกคือ อิรัก 1.6 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 458% แอฟริกาใต้ 7.75 แสนตัน ขยายตัวลดลง 2.26% จีน 7.452 แสนตัน เพิ่มขึ้น 18.81% สหรัฐอเมริกา 6.53 แสนตัน เพิ่มขึ้น 13.21% และเบนิน 3.2 แสนตัน ลดลง 15.38%
ส่วนเป้าหมายการส่งออกปี 2566 กรมได้คาดการณ์การส่งออกร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 7.5 ล้านตัน ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์มูลค่าการส่งออกรวมทั้งปีได้ เนื่องจากค่าเงินบาทปีนี้มีแนวโน้มผันผวนมาก โดยแข็งขึ้นจากปีก่อนมาก ล่าสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 32.5-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนกลางปีมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอยู่ที่ 35-40 บาท/เหรียญสหรัฐ และกลับมาแข็งค่าอีกครั้งช่วงปลายปี ซึ่งกรมจะต้องติดตามภาวะค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนแผนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวให้เป็นไปตามเป้า อาทิ การจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ (Thailand Rice Convention 2023) การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเยือนประเทศคู่ค้าสำคัญต่าง ๆ อาทิ ตลาดเยอรมนี จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย และเวียดนาม รวมทั้งจัดประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ เป็นต้น
“กรมก็พร้อมจะเดินหน้ารักษาตลาดเดิมและเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง ซึ่งรัฐมตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะนำคณะเอกชนเดินหน้าไปบุกตลาด อีกทั้งฟื้นฟูตลาดเก่าอย่างอิหร่าน เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย”
นายรณรงค์กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายการส่งออกมันสำปะหลังปี กรมได้คาดการณ์การส่งออกร่วมกับ 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 9 ล้านตัน ปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ส่งออกได้ 11.18 ล้านตัน
สาเหตุที่ทำให้ปริมาณการส่งออกมันฯปีนี้ปรับลดลง เนื่องจากผลผลิตมันสำปะหลังสดปีนี้จะอยู่ที่ 30 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนหน้า จากปัญหาโรคใบด่าง และปัญหาภัยแล้ง ส่วนแนวโน้มราคาปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้น เพราะจีนยังมีความต้องการนำเข้ามันเส้นจำนวนมาก ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการแป้งมันฯมากขึ้น โดยปี 2566 มีแผนเจาะตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน EU ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และซาอุดีอาระเบีย และมีกำหนดจัดงานมันสำปะหลังโลก (World Tapioca Conference 2023) ประมาณต้นเดือน มี.ค. 2566
