ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 9.15 จุด สอดรับกับตลาดเอเชีย-สหรัฐฯ กังวลเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ย จับตารายงานผลประชุมเฟดในคืนนี้ มองแนวโน้มพรุ่งนี้แกว่ง กรอบ 1,650-1,670 จุด เน้นลงทุนหุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง-ท่องเที่ยว
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึง ภาวะตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,659.48 จุด 9.15 จุด หรือ 0.55% ระหว่างวันดัชนีซื้อขายสูงสุด 1,667.99 จุด ต่ำสุดที่ 1,656.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,106.24 ล้านบาทว่า เป็นผลจากการปรับลงของ ตลาดหุ้นเอเชีย ที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ กดดันจิตวิทยาการลงทุนและการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯหลังจากนักลงทุนกลับมากังวลกับสถานการณ์ เงินเฟ้อ และ ดอกเบี้ย
สำหรับปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ รายงานผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด รอบเดือน ม.ค. แต่อย่างไรก็ตามอาจมีผลต่อตลาดหุ้นไม่มากนัก เนื่องจากว่าเป็นผลประชุมครั้งก่อนเป็นผลประชุมที่ยังไม่รับรู้เงินเฟ้อสหรัฐฯในเดือนล่าสุด
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่าต่างประเทศขายสุทธิ 4,278.26 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 2,514.35 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,162.15 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 601.76 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650 – 1,670 จุด ภาพรวมยังขาดปัจจัยใหม่ ๆ แม้ประเทศไทยจะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างชัดเจนแต่ก็มองว่าตลาดเองรับรู้ไประดับนึงแล้ว
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะหุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง อาทิ รับเหมาก่อสร้าง (CK, STEC) ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL) ส่วนหุ้นอื่นๆยังเน้นที่ Domestic Play อาทิ ท่องเที่ยว (AOT, ERW MINT ,VRANDA) เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,440.22 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,759.11 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SINGER มูลค่าการซื้อขาย 2,026.22 ล้านบาท ปิดที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,530.49 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,304.94 ล้านบาท ปิดที่ 17.30 บาท ลดลง 0.20 บาท