นักลงทุนต่างชาติทิ้งหุ้นไทยกดดัชนีร่วง

ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 5 จุด ทำจุดต่ำสุดของปีนี้ หลังจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็วเกินไป ขณะที่ต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง เกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีนคืนนี้  เน้นลงทุนหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,622.35 จุด  ลบ 5 จุด หรือ 0.31%  โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,637.41 จุด และต่ำสุดที่ 1,618.09 จุดมูลค่าการซื้อขาย 80,307.99 ล้านบาทว่า

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อทำจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วเกินไป โดยแตะระดับ 35.28% ในวันนี้(28ก.พ.) เพิ่มขึ้น 2% ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเดือนม.ค.พลิกขาดดุล 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมคาดว่าจะเกินดุลที่ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ MSCI ประกาศหุ้นเข้า-ออกใหม่ในวันนี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน และปริมาณการซื้อขายขึ้นมาแตะ 80,000 ล้านบาท ก่อนที่ตลาดปิดอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท

สำหรับการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านมา 538 บริษัท มูลค่าตลาดหรือมาร์เก็ตแคป 92% กำไรลดลง 35%QOQ และลดลง 45% YOY มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 40% ทำให้ SET ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นที่กดตลาดวันนี้ เช่น DELTA 2.6% BDMS 1.7% TIDLOR 6.5% และ MINT 2.4%

ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่าต่างประเทศขายสุทธิ 3,396.52 ล้านบาท ในประ เทศซื้อสุทธิ 3,140.10 ล้านบาทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 182.64 ล้านบาทบัญชีบล.ซื้อสุทธิ 73.78 ล้านบาท

ส่วนคืนนี้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนม.ค.คาดว่าอยู่ที่ 108 จุด ตัวเลข PMI จีนเดือนก.พ.น่าจะดีขึ้นอยู่ระดับ 50.6 จากเดือนม.ค.อยู่ที่ 50.1

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ประมาณไว้ที่ 1,610-1,630 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ มีการปรับฐานลงมาลึกและผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 8,289.12 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท ลดลง 0.30 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,597.50 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,406.96 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,346.90 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,112.13 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0.50 บาท