ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 49.18 จุด สอดรับตลาดหุ้นเอเชียที่แดงยกแผง ผวาปิดแบงก์สหรัฐฯ ล้มลามขยายวงกว้าง จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้หากมากกว่าคาดกดตลาดหุ้นทั่วโลก
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึง ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,523.89 จุด ลบ 49.18 จุด หรือ 3.13% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,572.36 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,518.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103,833.09 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดร่วงสอดรับกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่แดงยกแผง เช่น เกาหลีใต้ลบ 2.5% ฟิลิปปินส์ลบ 2.3% และฮ่องกงลบ 2.3% เนื่องจากมีความกังวลปิด Silicon Valley Bank และ Signature Bank อาจกระทบในวงกว้างกดดันตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้
สำหรับการลงของดัชนีหุ้นไทย 49.18 จุด ถือว่าเป็นการลงมากสุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน นับตั้งแต่เกิดโควิดรอบ 2 ที่จังหวัดสมุทรสาครดัชนีร่วงลง 80 จุด หรือ 5.4% ส่วนมูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ ขณะที่ดัชนีปิด 1,523 จุด ระดับพีอีอยู่ที่ 16.6 เท่าถือว่าราคาหุ้นถูก จากปกติ 19 เท่า ซึ่งเป็นจังหวะที่ทอยสะสม
ส่วนหุ้นที่ลงลึกเช่น DELTA ลง 4.5% TRUE ลง 5.1 % BJC ลง 8.39% และ EA ลง 4.97 % นอกจากนี้มีการบังคับขายหุ้น (ฟอร์ซเซล)ออกมาในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX)เพื่อปิดสถานะทำให้ดัชนีร่วงลึก
อย่างไรก็ตาม SET Index มีโอกาสดีดหลัง RSI เข้าเขต Oversold หุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์ได้ ส่วนคืนนี้ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ที่ 6% หากต่ำกว่าคาดเป็นสัญญาณที่ดี แต่ถ้ามากกว่าคาดจะกดตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ประเมินกรอบแนวรับแรก 1,520 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,500 จุด แนวต้าน 1,540 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,570 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,897.31 ล้านบาท ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,101.55 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,488.77 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,329.40 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,959.92 ล้านบาท ปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
