วันพุธ, มิถุนายน 26, 2024
หน้าแรกHighlightเดือนก.พ.66 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม สูงสุดในรอบ 47 เดือน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เดือนก.พ.66 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม สูงสุดในรอบ 47 เดือน

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯยินดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 สูงสุดในรอบ 47 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 รัฐบาลพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนเพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกันอย่างยั่งยืน

วันที่ 17 มี.ค.66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยินดีที่ภาคเอกชนจากภาคอุตสาหกรรมมีความเชื่อมั่น โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ระดับ 96.2 เป็นผลที่สูงที่สุดในรอบ 47 เดือน ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุน ดูแล อำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกันอย่างยั่งยืน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึง ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อยู่ที่ระดับ 96.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 93.9 ในเดือนมกราคม สูงสุดในรอบ 47 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 ซึ่งเป็นการสำรวจผู้ประกอบการ 1,316 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท.

อนุชา บูรพชัยศรี

ทั้งนี้ องค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกองค์ประกอบ อาทิ ดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการผลิต มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจากผลการสำรวจยังมีปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจโลก ร้อยละ 75.0 และ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 53.8 ในส่วนของปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมัน ร้อยละ 55.0 อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ร้อยละ 45.1 เศรษฐกิจในประเทศ ร้อยละ 35.5 และ สถานการณ์การเมืองในประเทศ ร้อยละ 31.3

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้ ขอให้ภาครัฐเร่งการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนงานเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจหยุดชะงักในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และเสนอให้ภาครัฐบูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง

“นายกรัฐมนตรียินดีที่ภาคเอกชนด้านอุตสาหกรรมมีความเชื่อมั่น โดยขอบคุณที่ร่วมก้าวผ่านความท้าทายร่วมกันมา และขอบคุณภาคอุตสาหกรรมที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ ปรับการทำงานเพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วนซึ่งจะส่งผลถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนไทยทุกคน ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ สั่งการดูแล ประเมินสถานการณ์ ปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img