“รัฐบาล” ปลื้มนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 200 ราย รวมมูลค่า 3 หมื่นล้าน เผยล่าสุดบริษัทฉางอันฯตัดสินหอบเงินกว่า 9,800 ล้าน สร้างฐานการผลิตรถยนต์ EV แห่งแรกนอกประเทศ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล รวมทั้งปัจจัยด้านศักยภาพสนับสนุนความเชื่อมั่นของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย โดยในไตรมาสแรกของปี 2566 อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้วเกือบ 200 ราย เงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชื่นชมความก้าวหน้าที่เห็นผลเป็นตัวเลขที่มีพัฒนาการ
โฆษกรัฐบาล ยังกล่าวถึงการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้วจำนวน 174 ราย จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นเงินลงทุน 33,048 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานคนไทยแล้ว 1,932 คน รวมทั้งเกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้แก่คนไทยอีกด้วย โดย 5 อันดับแรกของชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนได้แก่ (1) ญี่ปุ่น 46 ราย (2) สิงคโปร์ 30 ราย (3) สหรัฐฯ 25 ราย (4) จีน 10 ราย และ (5) สมาพันธรัฐสวิส 9 ราย
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมี 31 ราย ที่สนใจลงทุนในพื้นที่ EEC คิดเป็นร้อยละ 18 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มีมูลค่าการลงทุน 3,264 ล้านบาทซึ่งจากการทำงานเพื่อดึงดูดผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ล่าสุด บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะ และผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของจีน ได้ตัดสินลงทุนในไทยกว่า 9,800 ล้านบาท สร้างฐานการผลิตรถยนต์ EV แห่งแรกนอกประเทศจีน เพื่อส่งออกทั่วโลก กำลังการผลิตในระยะแรก 1 แสนคันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือได้ว่า ไทยมีความพร้อม และมีศักยภาพได้รับการยอมรับ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก
“รัฐบาลดำเนินนโยบายสนับสนุนการลงทุนในไทย ส่งเสริมเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย แสดงถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ศักยภาพของตลาด มาตรการสนับสนุนกิจการ แรงงานที่มีคุณภาพ รวมทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับการประกอบกิจการ ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนเพิ่มเติม เพื่อเป็นฐานเพิ่มศักยภาพทางอุตสาหกรรมในประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายอนุชาฯ กล่าว