โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯยินดีความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน คึกคักต่อเนื่อง ภาคเอกชนไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้ประกอบการชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 WCEC คาดมีผู้ร่วมประชุมกว่า 4,000 คน ร่วมหารือทางการค้า จับคู่ทางธุรกิจ ส่งเสริมเศรษฐกิจการค้า การลงทุนไทย
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้ประกอบการชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 (The World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการชาวจีนจากทั่วโลกกว่า 4,000 คน เดินทางเข้าร่วมประชุม เจรจา สำรวจลู่ทางการค้าการลงทุนในประเทศไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า WCEC เป็นเวทีการรวมตัวของนักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลกซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยมีหอการค้าสิงคโปร์-จีน หอการค้าฮ่องกง-จีน และ หอการค้าไทย-จีน เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งและร่วมผลักดันการจัดการประชุม ซึ่งการประชุม WCEC ได้จัดขึ้นในประเทศและเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ หมุนเวียนกันไปเช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ไทย แคนาดา ออสเตรเลีย จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมา สหราชอาณาจักร เป็นต้น และในการประชุมครั้งที่ 16 นี้ จะเป็นการจัดประชุมครั้งแรกภายหลังเผชิญกับความท้าทายของโควิด-19
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าการประชุมผู้ประกอบการชาวจีนโลกในครั้งนี้จะสนับสนุนการค้าการลงทุนที่เป็นประโยชน์กับไทยในหลายมิติ อาทิ สิทธิพิเศษของการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และมาตรการจูงใจสำหรับภาคส่วน EV เพื่อดึงดูดผู้ผลิตรถจากจีนเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ปี 2565 รายงานว่า การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่า 3.69 ล้านล้านบาท คิดเป็น 18% ของการค้าไทยค้ากับทั้งโลก อัตราการเติบโตทางการค้าปีที่แล้วกับจีนเพิ่มขึ้น 1.53% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จจากการผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน อาทิ การผลักดันยกระดับ FTA ระหว่างจีนกับอาเซียน การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนภายใต้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ซึ่งปัจจุบันเป็น FTA ที่ใหญ่สุดในโลก รวมทั้งการสนับสนุนการลงนามความร่วมมือรูปแบบพิเศษ mini FTA กับหลายเมืองของจีน อาทิ มณฑลไห่หนาน มณฑลกานซู่ เมืองเซินเจิ้น และเมืองยูนนานในอนาคต ประกอบกับ นโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของไทยของไทยซึ่งทำให้ จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ของกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 จีนลงทุนในไทยเป็นอันดับ 4 จำนวน 14 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 11,230 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ามิตรภาพความใกล้ชิดของไทย-จีน จะส่งเสริมและต่อยอดให้การประชุมผู้ประกอบการชาวจีนโลกในครั้งนี้ เป็นไปอย่างราบรื่นและเห็นผลสำเร็จทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญ มั่นใจในศักยภาพ และความพร้อมของไทยที่ได้วางรากฐาน และพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง” นายอนุชาฯ กล่าว
