ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 5.82 จุด นักลงทุนขายลดความเสี่ยงจากปัจจัยทางการเมือง จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ มองแนวโน้มพรุ่งนี้ตลาดซึมต่อให้แนวรับไว้ที่ 1,480 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,491.14 จุด ลดลง 5.82 จุด หรือ-0.39% มูลค่าซื้อขาย 52,288.15 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงหรือไม่เหตุถือครองหุ้นสื่อ ITV รวมทั้งมีคำขอให้ศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีการนัดชุมนุมกันในหลายจังหวัด รวมถึงการนัดชุมนุมที่สกายวอล์คหน้าหอศิลป์กรุงเทพวันนี้เวลา 18.00 น.ด้วย ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายกดดันให้ดัชนีฯ ย่อตัวลงมา
ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามปัจจัยในต่างประเทศคืนนี้ คือ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือน มิ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 4.0% ในเดือน พ.ค.
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ ซึมตัว แม้อาจได้ปัจจัยหนุนจากเงินเฟ้อสหรัฐที่มีโอกาสออกมาต่ำคาด แต่ความเคลื่อนไหวของการเมืองในประเทศยังกดดัน โดยให้ติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรี ให้แนวรับไว้ที่ 1,480 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,488.73 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,306.30 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,910.24 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,887.12 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,644.15 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท