ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ แอชตันอโศก ด้านอนันดาจี้หน่วยงานรัฐร่วมรับผิดชอบ หลังเป็นผู้อนุมัติ เพื่อเยียวยาความเสียหายแก่เจ้าของร่วมอาคารชุดและบริษัทฯ โดยเร็ว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากกรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ แอชตันอโศก ล่าสุด บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จํากัด ได้ออกแถลงการณ์ โดยพร้อมรับคำตัดสิน และจี้หน่วยงานรัฐให้รับผิดชอบ โดยระบุว่า
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.66 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคําพิพากษาในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวก (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้องผู้อํานวยการเขตวัฒนา ที่ 1, ผู้อํานวยการสํานักการโยธา ที่ 2, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 3, ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ 4 คณะกรรมการผู้ชํานาญการ พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ที่ 5 (ผู้ถูก ฟ้องคดี) และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จํากัด
“บริษัทฯ” ซึ่งไม่ใช่ผู้ถูกฟ้องคดีโดยตรง แต่ถูกเรียกเข้ามา ในฐานะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากผลแห่งคดี ในฐานะผู้ร้องสอดในคดีหมายเลขดําที่ อส 67/2564 หมายเลขแดงที่ อส.188/2566
โดยศาลปกครองสูงสุด ได้มีคําพิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง บริษัทฯ ขอน้อมรับและเคารพในคําพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามที่ได้วินิจฉัยไว้
กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด ได้วินิจฉัยไว้ในประเด็นสําคัญที่ว่า ที่ดินของ รฟม. ไม่อาจนํามาให้บริษัทฯ หรือ เอกชนใช้ในการทําโครงการได้ จึงทําให้หน่วยงานของรัฐไม่อาจออกใบอนุญาตในการก่อสร้าง จึงมีผลให้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
บริษัทฯ เห็นว่า ศาลปกครอง ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีพิพาท ระหว่าง หน่วยงานของรัฐ และหรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชน เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งเพื่อวางแนว หรือ สร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติราชการให้ถูกต้องชอบธรรม
อีกทั้งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ รวมถึง ฉบับปัจจุบันพุทธศักราช 2560 ในส่วนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของรัฐ ในกรณีที่รัฐจะอนุมัติ หรืออนุญาตให้ผู้ใดทําการได้ ก็จะต้องดําเนินการไปตามกฎหมาย
โดยรัฐมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องใช้ อํานาจและทําหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่ประมาทเลินเล่อ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นเหตุให้ เกิดความเสียหายกับประชาชน หรือผู้ประกอบการ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการกระทําที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังเกิดขึ้นเป็นคดีนี้แล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและทําการเยียวยาในความเดือดร้อน เสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรม และโดยไม่ชักช้า
ดังนั้น ผลแห่งคําพิพากษาที่เกิดขึ้นดังกล่าว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ต่อเจ้าของร่วมอาคารชุด และบริษัทฯ เพราะหากหน่วยงานราชการผู้มีอํานาจหน้าที่ไม่เห็นชอบและอนุมัติแล้วโครงการนี้จะไม่สามารถก่อสร้างได้ตั้งแต่แรก ซึ่งจะไม่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงอย่างที่เป็นอยู่
ทั้งนี้บริษัทฯ จะเร่งรีบดําเนินการในการเรียกร้องค่าเสียหายกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเยียวยาความเสียหายแก่เจ้าของร่วมอาคารชุดและบริษัทฯ โดยเร็ว
รวมทั้ง บริษัทฯ จะดําเนินการประสานงานคณะกรรมการนิติบุคคลแอชตัน อโศก และท่านเจ้าของร่วม เพื่อขอเข้าพบผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานครและผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อทวงถามความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ภายใน 14 วัน (สิบสี่) นับแต่วันนี้
บริษัทฯ ใคร่ขอยืนยันว่า การทําโครงการแอชตัน อโศกนั้น ได้มีการตรวจสอบประเด็นทางกฎหมาย รวมทั้งข้อกําหนดที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตต่างๆ รวมทั้งสภาพที่ดินของโครงการอย่างรอบคอบรัดกุม อีกทั้ง การพิจารณาอนุมัติในการทําโครงการต่างๆ ยังได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติ และภายใต้การกํากับ ควบคุมจากหน่วยงานของรัฐไม่ต่ำกว่า 8 หน่วยงาน จึงเป็นที่เห็นประจักษ์และยืนยันได้ว่า
บริษัทฯ ได้ดําเนินการไปด้วย ความสุจริต และชอบด้วยกฎหมายอย่างชัดแจ้งแล้วทุกประการเท่าที่บริษัทฯ จะทําได้ด้วยความเชื่อถือ โดยสุจริตว่าการอนุมัติของหน่วยงานราชการทุกฝ่ายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว บริษัทฯ จึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไขป้องกันมิให้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังเช่นคดีนี้ได้เกิดขึ้นอีก และเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็วด้วย
สำหรับโครงการแอชตัน อโศก มูลค่า 6.48 พันล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมสูง 51 ชั้น มีห้องพัก 783 ยูนิต