ททท.รุกตลาดต่างประเทศดึงต่างชาติเดินทางเที่ยวไทย โดยเฉพาะยุโรปกำลังซื้อสูง ตั้งเป้าหมายโกยรายได้ 1.62 ล้านล้านบาทในปีนี้
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 12.6 ล้าน คน แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางเข้าไทย 2.93 ล้านคน อเมริกา 620,474 คน ตะวันออกกลาง 231,206 คน และแอฟริกา 45,663 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิกมีสัดส่วนมากถึง 8.81 ล้านคน
ทั้งนี้เห็นว่าตลาดรัสเซียเป็นตลาดโดดเด่นในยุโรป จากที่ตั้งเป้าตลอดปีนี้ไว้ที่ 1 ล้านคน แต่ผ่านไปครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวรัสเซียสะสม 789,947 คน ททท.จึงตั้งเป้าขยายการเติบโตในปีหน้าให้ได้ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีนี้ จากปัจจัยจำนวนเที่ยวบินประจำเพิ่มขึ้น เช่น สายการบินแอโรฟลอต (Aeroflot) และการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) และชาวรัสเซียที่เดินทางเข้าไทยยังเป็นกลุ่มใช้จ่ายสูง
นอกจากยังมีตลาดซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-10 ก.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 75,652 คน มากเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง แซงหน้าตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งมีจำนวน 49,905 คน หลังฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ซาอุฯ เมื่อต้นปี 65 โดย ททท.เตรียมตั้งสำนักงานใหม่ในกรุงริยาด เพื่อรุกทำตลาดนักท่องเที่ยวซาอุฯ อย่างเต็มที่ พร้อมดูแลพื้นที่ใกล้เคียง เช่น แอฟริกาตอนเหนือ ซึ่งมีความใกล้เคียงกันในเชิงวัฒนธรรมกับตลาดซาอุฯ
นอกจากนี้ ททท.ยังมีแนวโน้มตั้งสำนักงานชิคาโก ในสหรัฐ เพื่อดูแลการทำตลาดในพื้นที่ “ตอนกลางของสหรัฐ” เพื่อดึงชาร์เตอร์ไฟลต์เข้าไทยได้ มาเสริมกำลังจากที่มีอยู่ 2 สำนักงานในสหรัฐ ได้แก่ สำนักงานนิวยอร์ก และสำนักงานลอสแอนเจลิส โดยเมื่อปี 2562 ก่อนโควิดระบาด มีนักท่องเที่ยวสหรัฐเดินทางเข้าไทย 1,136,210 คน และในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-10 ก.ค. 2566 มีจำนวนสะสม 472,317 คน
ส่วนสำนักงานชิคาโกจะรับผิดชอบพื้นที่ตลาดแคนาดา ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานนิวยอร์ก หลังจากก่อนหน้านี้ ททท.เคยตั้งสำนักงานโทรอนโต แต่ต้องพักดำเนินการไป โดยเมื่อปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวแคนาดาเดินทางเข้าไทย 252,574 คน กลุ่มหลักเดินทางจากโทรอนโตและแวนคูเวอร์ ขณะที่ในช่วง 1 ม.ค.-10 ก.ค. มีจำนวนสะสม 114,071 คน
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลในปี 2567 ยังมีอยู่ เช่น ปัจจัยความผันผวนทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศจากตลาดนี้คาดกลับมาแค่ 70% ในปีนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันสูง ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินยังแพง ต้องใช้เวลาอีก 2 ปีจำนวนเที่ยวบินถึงจะกลับมา 100%
ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายรายได้จากตลาดต่างประเทศปีนี้ 1.62 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดระยะไกล 6.6 แสนล้านบาท ตลาดระยะใกล้ 9.6 แสนล้านบาท ส่วนปี 67 ตั้งเป้ารายได้ 1.92 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดระยะไกล 7.21 แสนล้านบาท ตลาดระยะใกล้ 1.2 ล้านล้านบาท