ธ.ก.ส.เดินสายติดตามความคืบหน้ามาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อยตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดสระบุรีพบเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเบื้องต้น 1,647 ราย จำนวนหนี้ 1,547 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกร ที่จังหวัดสระบุรีว่า หลังจากครม.มีมติเมื่อ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้ดำเนินมาตรการในการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรและบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกันณ 30 ก.ย.66 ไม่เกิน 300,000 บาท
ธ.ก.ส. ได้เปิดระบบการแจ้งความประสงค์และตรวจสอบสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-26 ต.ค.พบว่า ปัจจุบันมีผู้แจ้งความประสงค์แล้วกว่า 880,345 คน โดยพื้นที่จังหวัดสระบุรีมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 11,647 ราย จำนวนหนี้ 1,547 ล้านบาท และมีผู้แจ้งความประสงค์ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile แล้วกว่า 2,884 ราย
สำหรับโครงการดังกล่าวมีลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการกว่า 2 ล้านราย ยอดหนี้ทั้งหมดจำนวน 283,000 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่สนใจเข้าโครงการตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชัน “BAAC Mobile” ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66-31 ม.ค.67
โดยติดตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ การตรวจสุขภาพหนี้ การทำเอกสารข้อตกลงต่อท้ายสัญญา และการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” พร้อมเติมสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักชำระหนี้และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรในการประกอบอาชีพระหว่างการพักหนี้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอและสามารถชำระหนี้ได้ โดยชูต้นแบบการฟื้นฟูศักยภาพชุมชนอย่างศูนย์การเรียนรู้ตลาดหัวปลี ตลาดชุมชนที่จำหน่ายสินค้าโอทอป (OTOP) ที่มาจากผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านในจังหวัดสระบุรี อาทิ อาหารท้องถิ่น ของใช้ ผักพื้นบ้าน และผักปลอดสารพิษ โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเดินเล่น ชม ชิม ช้อปสินค้า พร้อมพักผ่อนไปกับบรรยากาศสบาย ๆ
นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพของเกษตรกรในด้านต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจสำหรับการนำไปใช้พัฒนาและต่อยอดการประกอบอาชีพ จากนั้น เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้สวนเพิ่มบุญ วิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ ที่ประกอบอาชีพผลิตกระชายขาว พันธุ์ท้องถิ่น โดยหันมาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ด้วยการแปรรูปเป็นกระชายผงพร้อมดื่มและกาแฟกระชายปรุงสำเร็จโดยใช้วิธีการ Freeze Dried ที่ทันสมัย เพื่อให้ได้สารอาหารในเครื่องดื่มที่สมบูรณ์ที่สุด ลดความเผ็ดร้อนลง และดื่มได้ง่าย
ขณะเดียวกันทางกลุ่มฯ ยังมีการพัฒนาพื้นที่สวนเพิ่มบุญให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสมุนไพรและสุขภาพที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนโครงการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ เพื่อร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมให้สมาชิกกลุ่มฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักหนี้ อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน