วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSนายกฯประชุมศุลกากรชายแดนหนองคาย หวังให้เป็นต้นแบบ“วันสต็อปเซอร์วิส”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯประชุมศุลกากรชายแดนหนองคาย หวังให้เป็นต้นแบบ“วันสต็อปเซอร์วิส”

นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลตั้งใจพัฒนาให้ จ.หนองคายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค หวังให้ด่านศุลกากรหนองคาย เป็นต้นแบบการให้บริการ One Stop Service ขยายผลไปยังพื้นที่ต่าง ๆ

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 29 ต.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นปัญหาการส่งออกขั้นตอนพิธีการศุลกากร การค้าชายแดนและการพัฒนา One Stop Service ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สำนักงานศุลกากรหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการ และสส.ในพื้นที่เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ จุดสำนักงานศุลกากร จังหวัดหนองคาย ถือเป็นจุดแรกในการลงพื้นที่จ.หนองคายของนายกฯ

โดยนายกฯ กล่าวกับหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ว่า จังหวัดหนองคายตนเดินทางมาครั้งที่ 2 และจังหวัดนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่าจะเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมโยงเรื่องโลจิสติกส์จากไทยไปจีน ซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างที่สุด และที่ผ่านมาตนได้ไปเจอ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายกรัฐมนตรีจีน เขาต้องการสินค้าการเกษตรอย่างมาก ฉะนั้นเรื่องระบบขนส่งสำคัญ เมื่อจังหวัดหนองคายเป็นจุดสำคัญและมีความพร้อมมากประกอบกับขณะนี้มีนิคมอุตสาหกรรมด้วย แต่ที่ผ่านมาหยุดแค่ที่จ.หนองคายหรือฝั่งลาวเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องสร้างสะพานอีกแห่งหนึ่งในจ.หนองคาย รวมถึงการทำจุดวันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งการที่ตนจะไปพบผู้นำ สปป.ลาวในวันที่30 ต.ค.นี้ ก็จะมีการพูดคุยในเรื่องทำสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวแห่งที่ 2 ในจังหวัดหนองคายด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นหน่วยงานในพื้นที่ถ้าติดขัดตรงไหนก็ขอให้บอกมา เพื่อให้เราสามารถส่งสินค้าไปถึงจีนได้ เพราะหากลงทุนแสนล้านบาทแล้วไม่มีความต่อเนื่องในแง่ขนถ่ายสินค้า ลงทุนไปก็จะเสียหายเยอะ

นายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนอยากให้ศุลกากร เป็นเจ้าภาพเรื่องวันสต็อปเซอร์วิส ทำให้การบริการภาครัฐรวมอยู่ในระบบเดียว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เป็นพื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจ และแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างนักลงทุนกับผู้ประกอบการ ทำหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล ตรวจสอบมาตรฐานใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว และระบบทะเบียนบุคลากร โดยตนอยากให้จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดต้นแบบแรกด้วย และรัฐจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แต่ต้องอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนในทุกมิติ ให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุน ต้องเอื้อต่อการขนถ่ายสินค้าให้มีความสะดวกรวดเร็ว ฉะนั้นขอให้ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)เพราะไม่เช่นนั้นถ้าเราทำให้การค้าขายไม่เดินหน้ามันก็ลำบาก เพราะวันนี้โลกพัฒนาไปมาก การที่เขาจะมาลงทุนก็ต้องดูในหลายๆด้าน ซึ่งตนมาจากภาคธุรกิจก็คิดว่า ถ้าเข้าจะมาลงทุนแล้วติดปัญหาเยอะมันก็ไม่ดี ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว เราขยายได้เยอะแล้ว ฉะนั้นเราอยากจะขยายงานแบบนี้ไปอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งนี่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล นอกจากนี้ เราควรทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพราะอยากทำให้การท่องเที่ยวเมืองรองนั้นดีขึ้น

นายกฯ กล่าวย้ำอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนเมืองรองเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าสู่พื้นที่เมืองรองมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่สยามพารากอนกระทบต่อการท่องเที่ยว ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ รีบประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงมหาดไทยได้แก้กฎหมายการครอบครองปืนแล้ว ทั้งนี้ อีก 2 สัปดาห์จะเป็นช่วงเวลาของการเปิดวีซ่าจีนต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวให้มากขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img