ทอท.กระตุ้นธุรกิจการบินมอบส่วนลดทำการบินขึ้น – ลง ค่าจอดอากาศยาน และค่าบริการสนามบินต่างๆ สูงสุด 95% ให้กับสายการบินที่ทำการบินในเส้นทางใหม่ต้อนรับตารางบินฤดูหนาว หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว-ขานรับฟรีวีซ่า
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมการบิน และภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวในระยะเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล ทอท.ได้มีการจัดทำโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินให้กับสายการบินที่เปิดเส้นทางการบินใหม่ (New Routes to Airlines) ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายทางด้านการบิน และเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สายการบินตัดสินใจเปิดให้บริการเส้นทางการบินใหม่รวมถึงเป็นการกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินให้เร็วขึ้น
โดยมาตรการดังกล่าว ทอท.ได้มอบส่วนลดกับสายการบินที่ทำการบินในเส้นทางการบินใหม่ ซึ่งจะต้องเริ่มทำการบินหลังวันเริ่มตารางการบินฤดูหนาว 2023 โดยต้องเป็นเที่ยวบินแบบประจำระหว่างประเทศและภายในประเทศ รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ สำหรับเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสาร (Passenger Flight) โดยมีระยะเวลาของโครงการฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 ถึงวันที่ 31 ต.ค.2568 ซึ่งสายการบินที่เปิดเส้นทางบินใหม่ตามข้อกำหนดข้างต้น จะได้รับส่วนลดค่าทำการบินขึ้น – ลง ค่าจอดอากาศยาน และค่าบริการสนามบินต่างๆ ลดสูงสุด 95% ในปีแรก และลด 75% ในปีถัดไป
อีกทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายเปิดฟรีวีซ่า พร้อมมอบหมายให้ ทอท.เพิ่มจำนวนเที่ยวบินต่อสัปดาห์ และบริหารจัดการพื้นที่ในท่าอากาศยาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายนี้ ทอท. จึงได้จัดทำโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินหรือ Performance-Based Incentive Scheme ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่งเพิ่มเติม
โดยให้การสนับสนุนสายการบินที่ทำการบินในเที่ยวบินแบบประจำระหว่างประเทศ (International Scheduled Flight) รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ (Extra Flight) และเที่ยวบินแบบไม่ประจำหรือเช่าเหมาลำระหว่างประเทศ (Charter Flight)
สำหรับการสนับสนุนสายการบินในมาตรการนี้ ทอท.จะให้ส่วนลดกับสายการบินที่สามารถเพิ่มเที่ยวบินนอกเหนือจากจำนวนเที่ยวบินของสายการบินตนเอง ตามตารางการบินที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ณ วันที่ 8 ก.ย. 2566 โดยสายการบินจะได้รับส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน 175 บาทต่อผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 1 คน ทั้งนี้ ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน จะต้องไม่เกิน 75% ของค่าบริการขึ้นลงของอากาศยานของเที่ยวบินส่วนเพิ่ม และมีระยะเวลาของโครงการฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 ถึง 31 มี.ค. 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน หรือตลอดช่วงการบินฤดูหนาว
“ทอท.ประเมินว่ามาตรการลดค่าแลนด์ดิ้ง ปาร์กกิ้ง และค่าบริการสนามบินนี้ จะทำให้รายได้ใหม่จากบริการด้านเหล่านี้ลดลงสูงสุด 20% จากรายได้ที่เคยเก็บ แต่จะก่อให้เกิดผลบวกจากรายได้อื่นๆ จากปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มเข้ามา ทั้งในธุรกิจนอนแอร์โรว์ รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยว”
นอกจากนี้ ทอท.ยังประเมินว่าจากการออกมาตรการกระตุ้นสายการบินเปิดเส้นทางบินใหม่ และขยายความถี่เที่ยวบินนั้น จะส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินที่เคยได้รับอนุมัติจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในช่วงตารางบินฤดูหนาวปีนี้เพิ่มขึ้นอีกราว 25% จากตัวเลขจำนวนเที่ยวบินที่ขออนุมัติไว้แล้ว 1.94 แสนเที่ยวบิน โดยปัจจัยที่จะทำให้ปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้น คือ การตัดสินใจเพิ่มเที่ยวบินในช่วงตารางบินที่ยังว่างอยู่ อาทิ ช่วงเวลา 11.00-15.00 น., 19.00-21.00 น. และ 02.00-05.00 น. ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้จะเห็นการเพิ่มเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง เพราะคำขอเพิ่มความถี่เที่ยวบินต้องใช้เวลาพิจารณาจาก กพท.ราว 1 สัปดาห์
นายธีระ บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (AOC) กล่าวว่า ในนามสายการบินที่ทำการบินในประเทศไทย ขอขอบคุณรัฐบาล และ ทอท. ที่ได้จัดให้มีโครงการกระตุ้นการตลาดด้านการบินในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสายการบิน โดย AOC มั่นใจว่าจะสร้างผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบิน ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น และกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยกลับมามีเสถียรภาพเทียบเท่าหรือมากกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
