ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 4.01 จุดสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่แดงยกแผง หลังจีนยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยกฉุดหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว-ค้าปลีก ประกอบกับกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ มองแนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งตัวออกข้าง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,393.42 จุด ลดลง 4.01 จุด หรือ-0.29% มูลค่าซื้อขาย 36,302.87 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องตลาดภูมิภาค โดยช่วงแรกลงไปแรงจากราคาน้ำมันลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และตอบรับข่าวสายการบินจีนยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยในเดือนธ.ค.66-ม.ค.67 ไปประมาณ 40% ส่งผลให้กลุ่มท่องเที่ยวพักตัวลง รวมถึงกลุ่มค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนมีมีความกังวลการชะตัวของเศรษฐกิจจีน แม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดปัญหาวิกฤติ แต่อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มธนาคารที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มอสังหาฯ
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ หลังตัวเลขส่งออกไทยเดือนต.ค. ออกมาขยายตัวต่อเนื่องที่ 8% ใกล้เคียงที่ตลาดคาดที่ 9% สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป อีกทั้งนักลงทุนคาดหวังความพยายามของหน่วยงานกำกับดูแลที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุน
สำหรับแนวโน้มในพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้างในเชิงบวก อาจจะเห็นจังหวะของการฟื้นตัวเล็กน้อยจากแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณามาตรการต่าง ๆ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ อาทิ การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ข้อสรุปมาตรการ e-Refund ที่จะเริ่มใช้ปีหน้า รวมทั้งมาตรการแก้หนี้ ทำให้กลุ่ม Domestic Play, ค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภค อาจเป็นตัวพยุงตลาดกลับมาได้ ให้กรอบดัชนีแนวต้าน 1,400 จุด และแนวรับ 1,390 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,905.06 ล้านบาท ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,413.57 ล้านบาท ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,223.67 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,033.73 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,002.86 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท