ทอท.เดินหน้าแผนขยายสนามบินภูเก็ตระยะที่ 2 วงเงิน 6,211 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการฯภายในเดือนเม.ย.-ก.ย. 69
รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกด (มหาชน) หรือ ทอท. แจ้งความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 วงเงิน 6,211 ล้านบาทว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับออกแบบรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการฯ ซึ่งจะดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นจะเริ่มออกแบบรายละเอียดฯ ภายในเดือนมีนาคม 2567-กุมภาพันธ์ 2568
ขณะเดียวกันตามแผนจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน 2568 หลังจากนั้นจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเห็นชอบภายในเดือนธันวาคม 2568-มีนาคม 2569 คาดว่าจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการฯภายในเดือนเมษายน-กันยายน 2569 โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนตุลาคม 2569-มีนาคม 2572 และเปิดให้บริการภายในปี 2572
“ปัจจุบันสนามบินภูเก็ตเป็นสนามบินหลักแห่งที่ 3 ของไทยต่อจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง พบว่ามีปริมาณผู้โดยสารราวอยู่ที่ 16.23 ล้านคน ซึ่งเกิดขีดความสามารถที่รองรับได้จริงเพียง 12 ล้านคนต่อปีเท่านั้น ทำให้ทอท. เร่งผลักดันโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มสูงในอนาคต ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี”รายงานข่าวระบุ
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 พื้นที่ 73,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ประกอบด้วย
1.งานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International) และอาคารเทียบเครื่องบินสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5.5 ล้านคนต่อปี
2.งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานรองรับอากาศยาน Code E จำนวน 2 หลุมจอด และ Code C จำนวน 5 หลุมจอด โดยเป็นการศึกษาจัดสรรหลุมจอดแบบค้างคืน (Overnight)
3.งานปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค เช่น งานระบบประปา, งานระบบบำบัด, งานระบบไฟฟ้า, งานระบบถนน ฯลฯ หากโครงการแล้วเสร็จจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารรวมเป็น 18 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันที่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 12.5 ล้านคนต่อปี และรองรับ 25 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิมที่สามารถรองรับได้ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจากปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานภูเก็ต พบว่าในช่วงปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International) อยู่ที่ 10.6 ล้านคนต่อปี คิดเป็น 113% ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic) อยู่ที่ 7.4 ล้านคนต่อปี คิดเป็น 0.64% รวมปริมาณผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ 18.1 ล้านคนต่อปี ซึ่งเกินขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสารของท่าอากาศยานภูเก็ต
ทั้งนี้การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 พบว่าพื้นที่ภายในของท่าอากาศยานฯ รวมทั้งทางวิ่งเครื่องบิน (รันเวย์) ยังมีศักยภาพ ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความแออัดในการรองรับปริมาณผู้โดยสารที่ต้องการเดินทาง หากเพิ่มการพัฒนาขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International) จะทำให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการเงิน
นอกจากนี้ทอท.ยังมีแผนพัฒนาสนามบินภูเก็ต ระยะที่ 3 วงเงินลงทุน 12,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการขยายพื้นที่ใน Airside ประกอบด้วย การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ, การก่อสร้างจุดจอดรถแท็กซี่, การเพิ่มหลุมจอดอากาศยาน, การก่อสร้างอาคารจอดรถ จำนวน 1,500 คัน และการก่อสร้างสะพานเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้ารางเบา ระยะทาง 150 เมตร หากระยะที่ 3 ก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านคนต่อปี
อย่างไรก็ตาม ทอท.ประเมินว่าในปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66-ก.ย.67) จะมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการสนามบินของทอท.อยู่ที่ 120-130 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566 ที่มีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ 100 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19