ตลาดหุ้นไทยดิ่ง 21.07 จุด สอดรับตลาดหุ้นภูมิภาค แรงกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง หลังประธานเฟดคาดลดดอกเบี้ยไม่สูงถึง 6 ครั้ง ตามตลาดคาดการณ์ ผสมโรงเศรษฐกิจจีนแผ่วกดดัชนี ประเมินกรอบพรุ่งนี้ที่ 1,365- 1,400 จุด
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,380.65 จุด ลบ 21.07จุด หรือ -1.50% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,397.97 จุด ต่ำสุด 1,378.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56,707.53 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงลงหลุด 1,400 จุด สอดคล้องกับประเทศในฝั่งเอเซียส่วนใหญ่ที่แดงยกแผงแรงกดดันมาจาก 1. Bond Yield 10 ปีสหรัฐปรับขึ้น หลังกรรมการ Fed นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด คาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ คาดว่าจะไม่สูงถึง 6 ครั้ง ตามที่ตลาดคาดการณ์ จีนรายงาน GDP Growth 4Q23 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อย โดยทุก Sector ปรับลงในทางเดียวกัน แต่กลุ่มที่กดดัชนีหลัก ๆ คือ พลังงาน (PTTEP, EA, PTT) กลุ่มขนส่ง (AOT) กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, HMPRO) ฯลฯ โดยหุ้นที่ปรับตัวลง เช่น AMATA -7.8%, WHA -5.4%, ROJNA -3.97%, PIN -2.7
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่า ต่างประเทศขายสุทธิ 5,749.49 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ -540.81 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 6,186.8 ล้านบาทสถาบันซื้อสุทธิ 103.44 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มองตลาดแนวรับแรกที่ 1,380 จุดแนวรับถัดไปที่ 1,365 จุด แนวต้านแรกที่ 1,396 จุด แนวต้านที่ 1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,787.91 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,351.71 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,006.80 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
TU มูลค่าการซื้อขาย 1,915.13 ล้านบาท ปิดที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,834.31 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 1.50 บาท