กรมทรัพย์สินทางปัญญา ดึงสินค้าประมง “กุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต”เข้าสู่ระบบการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โชว์ศักยภาพสินค้าพรีเมียม พร้อมสนับสนุนเป็น Soft Power ด้านอาหารของไทย
นางสาวกนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า “จังหวัดภูเก็ตถือได้ว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับที่ 1 ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จากการสรุปสถานการณ์การท่องเที่ยว เมื่อปี 2566 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 330,000 ล้านบาท ส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นขยายตัวอย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงไปสู่การสร้างงานสร้างรายได้ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในจังหวัด อาทิ ด้านอาหาร เกษตร ประมง ฯลฯ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างเข้มแข็ง
กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมสินค้า GI อย่างครบวงจร โดยมีการควบคุมคุณภาพสินค้า GI 2 รายการ ได้แก่ สับปะรดภูเก็ตและมุกภูเก็ต รวมทั้งว่าที่สินค้า GI ที่อยู่ระหว่างการประกาศโฆษณา 1 รายการ ได้แก่ ส้มควายภูเก็ต ตลอดจนเฟ้นหาสินค้า GI รายการใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตอย่างยั่งยืน”
นางสาวกนิษฐา กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมฯ เล็งเห็นศักยภาพของสินค้าประมงจังหวัดภูเก็ต คือกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดภูเก็ตจะนึกถึงเมนูกุ้งมังกรเป็นอันดับต้นๆ โดยกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ตมีหัวและลำตัวขนาดใหญ่ เปลือกแข็งหนา มีหนวดแข็งแรง ตัวกุ้งมีหลายสีสวยงาม มีน้ำหนักตัว ๓.๕ – ๔.๕ กิโลกรัม สามารถบริโภคได้ทั้งแบบสดและผ่านการปรุง มีการเพาะเลี้ยง
ในบริเวณทะเลรอบเกาะภูเก็ตและเกาะบริวาร จัดว่าเป็นอาหารทะเลที่มีราคาสูง มีการจัดเทศกาล Phuket Lobster Festival เป็นประจำต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 7 ปี อีกทั้งยังเคยได้รับคัดเลือกให้เป็นวัตถุดิบหลักในเมนูงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ APEC 2022 อีกด้วย”
“การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ กรมฯ มีเป้าหมายในการสร้างความรู้ความเข้าใจ และศึกษาความเป็นไปได้ในการนำสินค้ากุ้งมังกร 7 สีภูเก็ตเข้าสู่ระบบการคุ้มครอง GI พร้อมส่งเสริมให้เป็น Soft Power ด้านอาหารของไทย โดยได้มีการประชุมหารือ ระดมความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ตลอดจนได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิตสินค้า ณ แหล่งผลิตสินค้าอีกด้วย” รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวทิ้งท้าย