ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 13.38 จุด แรงขายหุ้นพลังงาน-ค้าปลีก-ขนส่งกดตลาด ผสมโรงความกังวลจีดีพีไทยปี 66 โตเพียง 1.8% ต่ำกว่าคาด 2.3% ขณะที่ต่างประเทศขายสุทธิ 2,032.67 ล้านบาท ประเมินกรอบแนวรับพรุ่งนี้ที่ 1,354 จุด แนวต้าน 1,360-1,375 จุด
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระ ดับ 1,356.54 จุด ลบ -13.38 จุด หรือ -0.98% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,375.76 จุด ต่ำสุด 1,352.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาทว่า
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง โดยดัชนีหุ้นไทย Underperform กว่าประเทศในฝั่งเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ซึ่งหุ้นกลุ่มกดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มพลังงาน (GULF, EA) กลุ่มค้าปลีก (CPALL , CPAXT), กลุ่มขนส่ง(AOT) ฯลฯ ขณะที่กลุ่มหนุนดัชนีหลัก ๆ คือ กลุ่มท่องเที่ยว ( MINT) กลุ่มสื่อสาร (TRUE, INTUCH) กลุ่มธนาคาร (KTB, BBL, KBANK) ฯลฯ
ด้านมูลค่าการซื้อขายพบว่า ต่างประเทศขายสุทธิ 2,032.67 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 506.90 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 2,339.15 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 200.42 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ประเมินกรอบแนวรับพรุ่งนี้ที่ 1,354 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,345 จุด แนวต้านแรกที่ 1,360 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,375 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย วันนี้ถูกกดดันจากกรณีที่โฆษกรัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ากระทรวงการคลังรายงานตัวเลข GDP ปี 66 ขยายตัว 1.8% จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คาดการณ์ครั้งสุดท้ายที่ประมาณ 2.3% ซึ่งต่ำกว่า 0.5%
ทั้งนี้ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวล แต่เนื่องจากข่าวมาจากโฆษกรัฐบาล จึงต้องระวังเรื่องความสับสนของข้อมูล แต่ก็ส่งผลให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายออกมาก่อน รวมทั้ง Futures ปรับลงด้วย
โดยแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ได้ ซึ่งต้องติดตามว่ากระทรวงการคลังจะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยออกมาอย่างไร ให้กรอบแนวรับ 1,342-1,350 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด