หุ้นไทยปิดร่วง 6.62 จุด สอดรับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่แดงยกแผงกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาดหนุนบอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลลาร์แข็ง มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากรับรู้ปัจจัยเงินเฟ้อสหรัฐไปมากแล้ว
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,385.11 จุด ลดลง 6.62 จุด หรือ -0.48% มูลค่าซื้อขาย 36,773.49 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนที่หยุดไปช่วงตรุษจีนกลับมาเปิดทำการดีดขึ้นมาได้ โดยที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยความกังวลตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐสูงกว่าตลาดคาด ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ปรับเพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงมาก และทำให้นักลงทุนต่างชาติขายออก กดดันตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะแรงขายที่ออกมามากจากกลุ่มพลังงาน ไฟแนนซ์ และค้าปลีก รวมถึงหุ้นใหญ่กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวลง มีผลกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,700.51 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 180.34 ล้านบาทสถาบันซื้อสุทธิ 498.62 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 2,382.23 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากรับรู้ปัจจัยเงินเฟ้อสหรัฐไปมากแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สกลับมาเป็นบวกแล้ว แนะจับตาความคืบหน้าจากการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ Digital wallet และติดตามการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ให้แนวต้าน 1,400 จุด แนวรับ 1,380 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,361.29 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,319.23 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 1,229.16 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,152.88 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 994.84 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
