นายกฯรับทราบปัญหา สินค้าจีนตีตลาดไทย ส่งผลผู้ประกอบการ-ผู้ผลิต-ผู้ค้ารายย่อยไทย ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ แจงพบปัญหา 3 จุด สั่งปลัดคลัง หารืออธิบดีกรมสรรพากร-อธิบดีกรมศุลกากร วันนี้ทันที เบื้องต้นให้เก็บ VAT ไม่ให้ผู้ประกอบการในประเทศเสียเปรียบ
วันที่ 15 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ทวิตข้อความว่า…“ตอนนี้พบปัญหาอย่างน้อย 3 เรื่อง จากกรณีสินค้าจีนตีตลาดไทย จนสร้างความกังวลต่อผู้ผลิตไทยที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ คือ
1.มีการสำแดงเท็จ ผ่าน Free Trade Zone ให้ต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อตั้งใจเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.มีสินค้าราคาถูกโดยเฉพาะจากประเทศจีนทุ่มตลาดในไทยจากสินค้าออนไลน์และการเข้ามาใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone ที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ
3.มีการลักลอบนำสินค้าผ่านด่านศุลกากรโดยการสำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
สามข้อนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้ค้ารายย่อยไทย ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ เนื่องจากสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ราคาถูกกว่า เพราะได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งยังเป็นสินค้าคุณภาพต่ำขาดการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ และยังมีปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
ผมได้รับเอกสารข้อเสนอคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เกี่ยวกับแนวทางการรับมือในเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการคลัง นัดหารือร่วมกับอธิบดีกรมสรรพากร และอธิบดีกรมศุลกากร ในวันนี้ทันที
อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ควรจะทำได้ คือการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการในประเทศเสียเปรียบ สำหรับประเด็นอื่นๆ จะหารือในรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาให้สำเร็จต่อไปอีกครับ”