“การบินไทย”เร่งเคลียร์งบ“ไทยสมายล์” ก่อนปิดกิจการถาวร

“การบินไทย” เตรียมแจ้งกระทรวงพาณิชย์ปิดกิจการ “ไทยสมายล์” พร้อมรับโอนภาะหนี้สินกว่า 10,000 ล้านบาท เผยขาดทุนสะสมกว่า 2 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากการบินไทย แจ้งว่า หลังจากการบินไทยควบรวมกิจการสายการบินไทยสมายล์ ได้รับโอนเครื่องบิน 20 ลำทั้งหมดแล้ว และได้คืนโค้ดการบิน WE ให้กับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ส่งผลให้ไทยสมายล์สิ้นสุดการเป็นผู้บริหารสายการบิน แต่ยังไม่สามารถปิดกิจการได้ เพราะยังมีภาระหนี้สินทางบัญชีและสินทรัพย์อื่นๆ ที่ต้องดำเนินการโอนถ่ายมายังการบินไทย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ก่อนจะแจ้งกระทรวงพาณิชย์ เพื่อจดแจ้งเลิกกิจการบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด

สำหรับการควบรวมกิจการไทยสมายล์ จะทำให้อัตราการใช้เครื่องบินให้มีประสิทธิภาพขึ้น เพราะปัจจุบันอัตราการใช้เครื่องบินของไทยสมายล์เฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่การบินไทยมีอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ย 12-13 ชั่วโมงต่อวัน และบางกลุ่มมีอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ย 16 ชั่วโมงต่อวัน ถือว่ามีปริมาณการใช้เครื่องบินหนักมาก เมื่อนำเครื่องบิน 20 ลำมาเสริมทำให้การบินไทยบริหารจัดการอัตราการใช้เครื่องบินได้เพิ่มขึ้น และสร้างรายได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ไทยสมายล์ได้รายงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถึงงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2566 และงบกำไรขาดทุนและกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นและงบกระแสเงินสดสำหรับปี 2566 โดยงบการเงินปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 1,250 ล้านบาท แบ่งเป็น สินทรัพย์หมุนเวียน 1,077 ล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 173 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมีหนี้สินรวม 10,926 ล้านบาท โดยหนี้สินคงเหลือทั้งหมดเป็นหนี้สินหมุนเวียน แบ่งประเภทเป็น หนี้สินเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 10,759 ล้านบาท ประมาณการหนี้สินระยะสั้น 143 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่น 23 ล้านบาท 

นอกจากนี้ในงบแสดงฐานะการเงินเฉพาะกิจการ ยังพบว่ามีผลขาดทุนสะสมกว่า 20,929 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบอยู่ที่ 9,676 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการ 31 ธ.ค.2566 พบว่ามีรายได้รวม 9,868 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่เกิดจากการขายหรือการให้บริการ 9,583 ล้านบาท และรายได้อื่น 282 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,178 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิ 940 ล้านบาท

นอกจากนี้ได้รายงานความคืบหน้าการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยในระหว่างปี 2566 ผู้บริหารของการบินไทยและที่ประชุมเจ้าหนี้ของการบินไทยมีมติอนุมัติให้บริษัทโอนเครื่องบินแบบ A320-200 จำนวน 20 ลำ พร้อมทั้งบุคลากรภายใต้กลุ่มธุรกิจการบินให้แก่การบินไทย

โดยไทยสมายล์ได้ยกเลิกสัญญาเช่าเครื่องบินดังกล่าวที่มีกับการบินไทยและได้โอนเงินประกันการบำรุงรักษาเครื่องบินตามสัญญาเช่า ประมาณการหนี้สินไม่หมุนเวียนสำหรับผลประโยชน์พนักงานสำหรับบุคลากรภายใต้กลุ่มธุรกิจการบินและประมาณการหนี้สินไม่หมุนเวียนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างธุรกิจ กลุ่มธุรกิจการบินให้กับการบินไทย และไทยสมายล์กับการบินไทยไม่มีภาระหนี้สินระหว่างกันจากรายการดังกล่าว รวมเป็นจำนวน 9,453.37 ล้านมาท ซึ่งได้แสดงไว้เป็นส่วนเกินทุนจากการที่บริษัทใหญ่รับภาระหนี้สินแทนไทยสมายล์ในงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.66

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 ไทยสมายล์โอนปรับโครงสร้างธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของการบินไทยเสร็จสิ้นและได้หยุดการให้บริการแล้ว และไทยสมายล์อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจอื่นอย่างไรก็ตามไ ทยสมายล์ยังไม่มีแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนในปัจจุบัน ดังนั้นไทยสมายล์ได้จัดทำงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.66 โดยใช้เกณฑ์อื่นที่มิใช่เกณฑ์การดำเนินงานต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ไทยสมายล์มีรายการและความสัมพันธ์อย่างมีสาระสำคัญกับการบินไทยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นงบการเงินนี้อาจไม่แสดงถึงเงื่อนไขที่อาจมีอยู่ หรือผลการดำเนินงาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในกรณีที่ไทยสมายล์ได้ดำเนินงานโดยปราศจากความสัมพันธ์กันดังกล่าว