โฆษกฯ เผย รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว ผลักดันการจับคู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในงาน TTM+ 2024 คาดรายได้จากการเจรจาธุรกิจในงานกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวไม่รู้จบ
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวสอดรับนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้ปีหน้า (2568) เป็นปีที่ยิ่งใหญ่การท่องเที่ยวไทย พร้อมรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนร่วมงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบ Business to Business (B2B) ในงาน Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+ 2024) งานระดับนานาชาติที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของไทย พร้อมนำเสนอแคมเปญ “Amazing Thailand : Your Stories Never End” ระหว่างวันที่ 5 – 7 มิถุนายน 2567 ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา คาดการณ์ว่า จะสร้างรายได้จากการเจรจาธุรกิจกว่า 3 พันล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ในงาน TTM+ 2024 นี้ เป็นการรวมตัว และจับคู่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวกว่า 425 ราย จาก 50 ประเทศทั่วโลก มาร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย (ผู้ขาย) ที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงแรม รวมถึงบริษัทนำเที่ยว สถานบันเทิงและสันทนาการ และธุรกิจด้านคมนาคมขนส่ง โดยคาดว่าในการจัดงานปีนี้ จะเกิดการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 นัดหมาย หรือราว 36 นัดหมายต่อราย สร้างรายได้จากการเจรจาธุรกิจมากกว่า 3,000 ล้านบาท และกระจายรายได้สู่จังหวัดพังงา จากการจัดงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
โอกาสนี้ ททท. ยังมุ่งเน้นการท่องเที่ยวที่ผสมผสานแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการยกระดับการท่องเที่ยวทั้งเชิงคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมและประสบการณ์การท่องเที่ยว สร้างความประทับใจที่ต่อยอดนำไปสู่การแบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยวไทยอย่างไม่รู้จบ สอดรับกับแคมเปญ “Amazing Thailand : Your Stories Never End” นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานในรูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบดิจิทัลด้วย E-Badge ลดการใช้กระดาษ มีการใช้ Mobile Application เพื่อการนัดหมายผู้ซื้อและผู้ขาย รวมทั้งบริหารจัดการขยะในพื้นที่จัดงาน การคำนวณ Carbon Footprint และมีการนำอาหารไปบริจาคให้แก่ผู้ขาดแคลนในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมการตระหนักถึงปัญหาขยะ นับเป็นการดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการท่องเที่ยว บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมเครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ ราคา และบริการด้านการท่องเที่ยว และยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกให้แก่การท่องเที่ยวมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางจังหวัดที่มีศักยภาพจะเริ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและส่งต่อให้ปี 2568 เป็นปียิ่งใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของไทย” นายชัย กล่าว