ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 5.22 จุด แรงขายหุ้น หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถ่วงตลาดหลังเปิดแผน PDP 2024 ฉบับใหม่ กำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าน้อยกว่าคาด
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยต้นสัปดาห์หน้าคาดซึมตัว แรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและประเด็นการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทย ปิดที่ ระดับ 1,306.56 จุด ลดลง 5.22 จุด หรือ -0.40% มูลค่าซื้อขาย ราว 38,680.28 ล้านบาท
ว่า ตลดาหุ้นไทยวันนี้ยังปรับลงต่อ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน โดยมีแรงขายจากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถ่วงตลาดหลังเปิดแผน PDP 2024 ฉบับใหม่
กำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าน้อยกว่าคาด ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตค่อนข้างช้า และรายละเอียดของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ยังไม่ชัดเจน กดดันบรรยากาศการลงทุนต่อ รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยต้นสัปดาห์หน้าคาดซึมตัวต่อไปจากแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและประเด็นการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ตลาดอาจเลือกขายลดความเสี่ยง
โดยในวันที่ 18 มิ.ย. จะมีการพิจารณาคดีทางการเมืองคดียุบพรรคก้าวไกล และคุณสมบัตินายกฯ เศรษฐา ทวีสิน รวมถึงการส่งฟ้องคดีนายทักษิณ ชินวัตร กระทำผิด ม.112 ส่งผลให้ดัชนีอาจผันผวน
สำหรับคดียุบพรรคก้าวไกล เป็นประเด็นที่มีความไม่แน่นอนสูง หากคำตัดสินออกมาไม่ยุบพรรคดัชนีอาจรีบาวด์ได้ แต่หากตัดสินยุบพรรค อาจเกิดความกังวลจากความไม่แน่นอนนอกสภาฯ
คาดว่าจะทำให้มีแรงขายถ่วงตลาดเพิ่มขึ้นอีก
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับแรก 1,300 จุด ถ้าไม่อยู่ให้แนวรับถัดไป 1,290 จุด และแนวต้าน 1,315 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,345.95 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,257.04 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,217.13 ล้านบาท ปิดที่ 79.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,185.79 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,043.76 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
