“เสริมศักดิ์” เผยสถิติต่างชาติท่องเที่ยว 1 ม.ค.-16 มิ.ย.ทะลุ 16 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 7.65 แสนล้านบาท นักท่องเที่ยวจีนครองแชมป์
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 16 มิ.ย. 67ว่า ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะระดับ 16,200,706 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 765,584 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 3,179,539 คน มาเลเซีย 2,253,397 คน อินเดีย 952,470 คน รัสเซีย 888,203 คน) และเกาหลีใต้ 874,903 คน
สำหรับการเดินทางนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เพิ่มขึ้น 9.61% และกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) กลับมาฟื้นตัว 4.90% จากสัปดาห์ก่อนหน้า อีกทั้ง จากการมีวันหยุดต่อเนื่องของศาสนาอิสลาม (วันตรุษอีฏิ้ลอัฏฮา หรือวันฮารีรายอฮัจยี) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้นสูงถึง 97.82 % รวมถึงตลาดมาเลเซียเพิ่มขึ้น 32.99% อินโดนีเซียที่ 37.70% และสิงคโปร์ 17.94%
ทั้งนี้ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทั้งสิ้น 657,362 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 65,024 คน หรือ 10.98% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 93,909 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (116,364 คน) มาเลเซีย (110,070 คน) อินเดีย (49,222 คน) สิงคโปร์ (31,953 คน) และเกาหลีใต้ (28,905 คน)
โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซียเพิ่มขึ้น 32.99% สิงคโปร์ 17.94% และอินเดีย 3.21% มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ลดลง 11.34% และจีนลดลง 2.80%
สำหรับในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาทรงตัว โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย อาทิ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย – จีน ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน รวมทั้งการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี
ให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน และคาซัคสถาน และการยกเว้นบัตรตม.6 ในด่านทางบก 8 ด่าน แก่นักท่องเที่ยวมาเลเซียและลาว
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงกรณีอุบัติเหตุ อาชญากรรม และภัยอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 31 ส.ค. 2567 โดยที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องไม่เกิดจากความประมาท เจตนา การกระทำผิดกฎหมาย หรือพฤติการณ์ที่เสี่ยงของนักท่องเที่ยว
สำหรับอัตราชดเชยในโครงการนี้ ประกอบด้วย กรณีเสียชีวิต ไม่เกิน 1 ล้านบาท, การสูญเสียอวัยวะถาวร สูญเสียสายตา ทุพพลภาพถาวร ชดเชย 300,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน 500,000 บาท ผู้ยื่นคำขอจะต้องถือหนังสือเดินทางประเภทนักท่องเที่ยว โดยสามารถยื่นคำขอได้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงทางไปรษณีย์และอีเมลที่กำหนด
“ในระยะเวลา 5 เดือนแรกของการดำเนินโครงการนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติยื่นคำขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวนกว่า 53 ราย โดยคณะกรรมการได้เห็นชอบให้จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 7 ราย เป็นกรณีเสียชีวิต 4 ราย และกรณีบาดเจ็บ 3 ราย”
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเป็นความใส่ใจจากรัฐบาลที่สนับสนุนงบประมาณดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยซ้ำอีก ซึ่งจะก่อให้เกิดการพักค้าง และเพิ่มทั้งจำนวนรายได้ และจำนวนนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ จะพิจารณาเสนอ ครม. ในการขอขยายเวลาโครงการฯ เพื่อรักษาระดับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องในปีหน้า