ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 5.53 จุด แรงขายต่างชาติกดตลาด โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ใน SET50 ถูกกดดันจากประเด็นคดีสำคัญทางการเมืองถูกเลื่อนออกไปในเดือน ก.ค.นี้ คาดพรุ่งนี้ดัชนีน่าจะฟื้นตัวระยะสั้นคาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,330 จุด
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,298.29 จุด ลดลง 5.53 จุด หรือ -0.42% มูลค่าซื้อขาย 37,919.30 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับแรงขายจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ใน SET50 ถูกกดดันจากประเด็นคดีสำคัญทางการเมืองถูกเลื่อนออกไปในเดือน ก.ค.
ขณะที่ภาพรวมต่างประเทศปัจจัยต่างๆ เริ่มดีขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ชะลอตัวลงหลังจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ทำให้นักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตอบรับ เพราะยังคงถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการเมือง
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,959.89 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ +430.53 ล้านบาทบัญชีบล.ซื้อสุทธิ 141.61 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 1,387.75 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดแกว่งตัวรอปัจจัยต่าง ๆ ชัดเจน โดยคาดว่าหลังมีคำตัดสินคดีทางการเมืองทั้ง 2 คดี ทั้งคดียุบพรรคก้าวไกลและคดีพิจารณาคุณสมบัตินายกฯ ดัชนีน่าจะฟื้นตัว ระยะสั้นคาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,330 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,120.34 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,097.29 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,417.38 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,246.77 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,230.96 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท