ตลาดหุ้นไทยร่วง 9.69 จุด สอดรับตลาดหุ้นภูมิภาครับแรงดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า รวมทั้งความกังวลรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมแทรกแซงตลาดเงินหลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 38 ปี
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,309.46 จุด ลดลง 9.69 จุด หรือ-0.73% ด้วย มูลค่าการซื้อขาย 34,140.71 ล้านบาทตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงสอดคล้องภูมิภาคที่ได้รับแรงดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า รวมทั้งความกังวลว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดเงินหลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 38 ปี
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้รับแรงขายหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ในกลุ่มแบงก์และกลุ่มพลังงาน โดยนักลงทุนกังวลแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 ชะลอตัว เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า อาจทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารได้รับแรงกระแทกไปด้วย ขณะที่กลุ่มพลังงานถูกกดดันจากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 2/67 ชะลอตัว
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ โดยคาดว่าแรงกดดันจากการ Rollover สัญญา TFEX เบาบาง รวมทั้งใกล้ถึงวันบังคับใช้มาตรการ Uptick Rule ขณะที่ตลาดยังรอติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/67 ของกลุ่มธนาคาร และการดีเบตระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่เป็นผู้ท้าชิงในคืนนี้ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ โดยให้กรอบแนวรับ 1,300 จุด และแนวต้าน 1,311 จุด แนวต้านถัดไป 1,330 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,924.01 ล้านบาท ปิดที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.20 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,657.41 ล้านบาท ปิดที่ 104.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,050.03 ล้านบาท ปิดที่ 251.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 991.22 ล้านบาท ปิดที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 982.70 ล้านบาท ปิดที่ 55.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
