วันอาทิตย์, มิถุนายน 30, 2024
หน้าแรกHighlight“ทูน่ากระป๋องไทย”แชมป์โลก 5 เดือนแรกส่งออกพุ่ง 13%
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทูน่ากระป๋องไทย”แชมป์โลก 5 เดือนแรกส่งออกพุ่ง 13%

ส่งออก “ทูน่ากระป๋องไทย” ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ 3.48 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% คว้าแชมป์ส่งออกอันดับ 1 ของโลก แนะผู้ประกอบการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานให้สอดรับมาตรฐานโลก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค.) ไทยส่งออกทูน่ากระป๋อง (พิกัดศุลกากร 160414) เป็นปริมาณ 221,092 ตัน เพิ่มขึ้น19.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 978.56 ล้านเหรียญสหรัฐ (34,894.39 ล้านบาท) ขยายตัว 13.40% (ปี 2566 ไทยส่งออกทูน่ากระป๋อง 445,000 ตัน หดตัว 13.42% มูลค่า 2,087.30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 71,989.95 ล้านบาท หดตัว9.34 % )

นอกจากนี้ผลพลอยได้จากการผลิตทูน่ากระป๋อง มีการนำไปใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง โดยพบว่ามูลค่าการส่งออกอาหารสุนัขและแมว (พิกัดศุลกากร 230910) ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-พ.ค.) มีปริมาณ 337,579 ตัน ขยายตัว 21.64% คิดเป็นมูลค่า 1071.54 ล้านเหรียญสหรัฐ (38,245.60 ล้านบาท) ขยายตัว 37.60% ถือเป็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวของอุตสาหกรรมทูน่าทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในห่วงโซ่คุณค่า

ตลาดส่งออกทูน่ากระป๋องที่สำคัญของไทย 5 อันดับแรก ปี 2566 ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการส่งออก 482.06 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,091.11 ล้านบาท มีสัดส่วน 23.10% ของมูลค่าการส่งออกทูน่ากระป๋องของไทย) 2.ญี่ปุ่น 257.27 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,429.45 ล้านบาท สัดส่วน 12.33% 3.ออสเตรเลีย 172.68 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,107.07 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 8.27 4.ลิเบีย 150.37 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,959.30 ล้านบาท สัดส่วน 7.20% และ 5.ซาอุดีอาระเบีย 137.92 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,899.29 ล้านบาทสัดส่วน 6.61%

สำหรับภาพรวมของโลกผู้ส่งออกทูน่าหลักของโลก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ไทย มีมูลค่าการส่งออก 2,087.30 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.เอกวาดอร์ 1,188.73 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.จีน 832.24 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.สเปน 792.49 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 5.เนเธอร์แลนด์ 313.75 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในส่วนของผู้นำเข้าหลักของโลก สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำเข้าอันดับหนึ่งของโลก มีมูลค่าการนำเข้ารวม 1,181.80 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.48 ของการนำเข้ารวมของโลก ขณะที่อันดับ 2-5 อยู่ในตลาดยุโรป ได้แก่ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และเยอรมนี มีมูลค่าการนำเข้ารวม 2,822.20 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.20 ของการนำเข้ารวมของโลก และในตลาดนำเข้าหลักของโลกดังกล่าว ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 38.14 ส่วนในตลาดยุโรปที่เป็นตลาดศักยภาพขนาดใหญ่ ไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพียงร้อยละ 0.59 สำหรับตลาดอื่น ๆ ที่มีมูลค่าการนำเข้าสูง และไทยมีส่วนแบ่งตลาดสูง ได้แก่ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งไทยมีส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 57.13 และ 77.57 ตามลำดับ

ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้มูลค่าการส่งออกทูน่ากระป๋องของไทยเติบโตมากขึ้นในปีนี้ มาจากราคาต้นทุนทูน่าที่ต่ำลง ประกอบกับการเติบโตของความต้องการอาหารฮาลาล และความเสี่ยงด้านปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้มีการสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าการนำเข้าของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง จึงทำให้ไทยซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตที่มีศักยภาพ มีเทคโนโลยีการผลิตที่ครบวงจรและได้มาตรฐานสากล สามารถพัฒนา ผลิตภัณฑให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้ ประกอบกับความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งในการรับซื้อปลาทูน่าจากทั่วโลก และการมีเครือข่ายครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต รวมทั้งช่องทางการกระจายสินค้าในตลาดสำคัญ จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะยกระดับการส่งออกทูน่ากระป๋องไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมทูน่ากระป๋องของไทยมีความแข็งแกร่ง ไทยเป็นผู้ส่งออกทูน่ากระป๋องอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างยาวนานต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อให้ไทยสามารถ ครองตำแหน่งผู้ส่งออกทูน่ากระป๋องอันดับหนึ่งของโลกต่อไป จะต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพการผลิต ที่ถูกสุขอนามัยตามมาตรฐานสากล การมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ การดำเนินนโยบายด้านความยั่งยืน รวมทั้ง การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เพื่อขยายสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลาง และยุโรป ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ในการเดินหน้าประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเกษตรและอาหาร (Agriculture & Food Hub) ของโลกในอนาคตต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img