วันอาทิตย์, มิถุนายน 30, 2024
หน้าแรกHighlight‘ก้าวไกล’จี้‘คลัง’สังคายนา‘ก.ม.ตลาดทุน’ หวั่นเกิดซ้ำคดีหุ้นSTARKทำปชช.สูญเงิน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ก้าวไกล’จี้‘คลัง’สังคายนา‘ก.ม.ตลาดทุน’ หวั่นเกิดซ้ำคดีหุ้นSTARKทำปชช.สูญเงิน

“ก้าวไกล” ตามจี้ “รมว.คลัง” สังคายานากม.ตลาดหลักทรัพย์ แนะความมั่นใจต่อนักลงทุน หวั่นเกิดเหตุซ้ำคดีหุ้น STARK ทำประชาชนสูญเงินหลายหมื่นล้าน แนะทบทวนตั้งผู้จัดการตลาดฯคนใหม่ เหตุเคยเป็นผู้บริหารตรวจสอบ บ.STARK

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.67 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงคดีหุ้น STARK ที่มีผู้เสียหายหลายพันคน และมีความเสียหายประมาณ 15,000 ล้านบาท และได้จับกลุ่มผู้ต้องหาคนสำคัญไปแล้วว่า ในฐานะที่กระทรวงการคลัง กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เคยออกมาแถลงว่าจะทบทวนและเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับตลาดทุนเพื่อให้มีการตรวจสอบ และกำกับกิจการในตลาดหลักทรัพย์ให้มากขึ้น ตนจึงอยากถามว่า ถึงตอนนี้ทางกระทรวงการคลังและกลต.ได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ตนไม่อยากให้เป็นไฟไหม้ฟางหรือวัวหายล้อมคอก เหมือนหน่วยงานอื่นๆ เพราะหน่วยงานของท่านมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ประกอบกับเราได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เคยเป็น อดีตประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มาแล้วก็ขอให้แถลง ให้นักลงทุนในตลาดได้มั่นใจ ในการกำกับดูแลและตรวจสอบการบริหารและการทำบัญชีของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทางกระทรวงการคลัง และกลต.จะต้องสังคายนากฎหมาย และระเบียบทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณีอื้อฉาว ทำการตกแต่งบัญชี ทำธุรกรรมการเงินปลอม คล้ายกับกรณีหุ้นSTARK ที่อาจจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้หรือปีหน้า แล้วจะสร้างความเสียหายให้กับประชาชนหลายหมื่นล้านบาท

“อยากให้ทบทวนการตั้งผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่เคยเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในกลุ่มเดียวกับบริษัทที่เคยเป็นบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีของ STARK ในช่วงที่เกิดเหตุ แม้การแต่งตั้งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นอำนาจของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ แต่รมว.คลังเป็นผู้รักษาการ ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นการเข้ารับตำแหน่งของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ ยังไม่เข้ารับตำแหน่งจนกว่า จะถึงเดือนส.ค.นี้ ซึ่งถ้าหากยังมีการดึงดัน ผมเกรงว่า จะเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย และหมู่นักลงทุนทั้งคนไทยและต่างประเทศลงไปอีก”นายจุลพงศ์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img