ทอท.เรียกคืนพื้นที่คิงเพาเวอร์ในสนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินภูเก็ต เล็งเปิดโซนเอนเตอร์เทนเมนท์ให้บริการผู้โดยสาร รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ตว่า ทอท. ทำตามข้อแนะนำของ Skytrax เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาบริการแก่ผู้โดยสารให้มีความสะดวกในการใช้ท่าอากาศยานเพิ่มขึ้น
ซึ่งไม่กระทบต่อสัญญาสัมปทานบริหารพื้นที่ โดยเฉพาะสัญญากับคิง เพาเวอร์ เนื่องจากมีเงื่อนไขระบุไว้แล้วว่า ทอท.สามารถขอคืนพื้นที่เพื่อนำไปพัฒนาประโยชน์สาธารณะได้ ไม่ผิดเงื่อนไขสัญญา และไม่ต้องเยียวยาเอกชน แต่การลดขนาดพื้นที่ ยอมรับว่าทำให้รายได้ของ ทอท.ลดลง ประมาณ 90 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 1% ของรายได้ทั้งหมด และปรับลดในช่วงปี 67 – 68 แต่หากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น รายได้ส่วนนี้ก็จะถูกชดเชยกลับเป็นปกติ เนื่องจาก ทอท.จะได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเพิ่มขึ้นตามปริมาณผู้โดยสาร
ส่วนการเรียกคืนพื้นที่ภายในท่าอากาศยานดังกล่าว เพื่อพัฒนาพื้นที่บริการผู้โดยสารให้ตอบโจทย์ต่อการใช้บริการในปัจจุบันตอบสนองด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขี้น โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.มีแผนพัฒนาสู่ “Suvarnabhumi Airport Passenger Experience Enhancement” มีรายละเอียดดังนี้
– ปรับปรุงพื้นที่บริเวณชั้น 3 SAT-1 ประมาณ 400 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ Game Zone , Kis Zone และ Relaxing / Piono Lounge
– ปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 3 SAT-1 ประมาณ 150 ตารางเมตรเป็น Seating & Co-Working Space
โดยทอท.กำหนดระยะเวลาดำเนินการ ดังนี้เดือนก.ค.ขอคืนพื้นที่ล่วงหน้า 30 วันตามข้อกำหนดในสัญญา ซึ่งจะดำเนินการออกแบบรายละเอียดพื้นที่ควบคู่ด้วย เดือนส.ค. – ต.ค. จัดหาผู้ดำเนินการและเข้าพื้นที่ เดือนต.ค. – พ.ย. ปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งจะต้องให้แล้วเสร็จทันตารางบินฤดูหนาวปี 67 เพราะเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เพื่อรองรับบริการผู้โดยสาร
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตอบรับต่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้โดยสาร ผลักดันให้ท่าอากาศยานเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้โดยสารต้องการเดินทางมาใช้บริการมากกว่าการเป็นประตูเชื่อมต่อการเดินทาง อีกทั้งยังเชื่อว่าการพัฒนาพื้นที่เอนเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ จะทำให้ผู้โดยสารใช้เวลาภายในท่าอากาศยานมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันท่าอากาศยานหลายแห่งทั่วโลกนิยมพัฒนาพื้นที่และบริการในลักษณะนี้
โดยเบื้องต้น ทอท.มีแผนจะพัฒนาพื้นที่ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 60,000 ตารางเมตร จัดทำพื้นที่ “Bangkok Food Street” โดยการนำร้านอาหาร ชื่อดังของกรุงเทพฯ มาเปิดให้บริการ รวมไปถึงการพัฒนาพื้นที่สำหรับเด็ก ร้านนวดแผนไทย และโรงแรมแบบเดย์รูม ทั้งรายวันและรายชั่วโมง คาดว่าจะได้เห็นภาพดังกล่าวภายในปี 70
รายงานข่าวแจ้งว่า การขอคืนพื้นที่ดังกล่าว หากนับเฉพาะส่วนของเอกชนคู่สัญญาร้านค้าดิวตี้ฟรี “คิงเพาเวอร์” พบว่ามีการเรียกคืนรวมประมาณ 1,400 ตารางเมตร แบ่งเป็น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1,000 ตารางเมตร ส่งผลให้พื้นที่ดิวตี้ฟรีถูกปรับลดลง จากช่วงที่ยื่นประมูลมีพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร
สำหรับการเรียกคืนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ทำให้เงื่อนไขที่คิงเพาเวอร์ต้องชำระส่วนแบ่งค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ประมาณ 234 บาทต่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นับตั้งแต่เดือน พ.ย.67 เป็นต้นไป จะปรับลดลงเหลือ 218 บาทต่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ
สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ต 400 ตารางเมตร ส่งผลให้พื้นที่ดิวตี้ฟรีถูกปรับลดลงจากตอนที่ยื่นประมูลมีจำนวนประมาณ 2,500 ตารางเมตร การเรียกคืนอยู่ที่ประมาณ 400 ตารางเมตร หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 17% ส่งผลให้เงื่อนไขเดิมที่คิงเพาเวอร์ต้องชำระส่วนแบ่งค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจะลดลงจากเดิม 127 บาทต่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยนับตั้งแต่เดือน พ.ย.67 เป็นต้นไป จะปรับลดเหลือ 105 บาทต่อผู้โดยสารระหว่างประเทศ
