วันอาทิตย์, กันยายน 8, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“ภูสิต”แนะผู้ประกอบการไทยใส่ใจข้อมูล บนฉลากสินค้าเพื่อทำตลาดในอิตาลี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ภูสิต”แนะผู้ประกอบการไทยใส่ใจข้อมูล บนฉลากสินค้าเพื่อทำตลาดในอิตาลี

“ภูสิต” เผยสินค้าสุขภาพปกป้องสิ่งแวดล้อม มีโอกาสขายอิตาลี แต่ต้องให้ความสำคัญกับการใส่ข้อมูลบนฉลาก-สื่อสารตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน อิตาลี ถึงผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค ชาวอิตาเลียนเกี่ยวกับการซื้อสินค้าที่ให้ความสำคัญกับการใส่ใจอ่านฉลากสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ และโอกาสในการทำตลาดสินค้าไทยเพื่อขยายมูลค่าการส่งออก

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า บริษัท GS1 ของอิตาลี ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ในการสร้างมาตรฐานให้กับกระบวนการค้าของอิตาลี ร่วมกับบริษัท NielsenIQ บริษัทวิจัยทางการตลาด ได้รายงานครึ่งปีเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับอิทธิพลของข้อมูลบนฉลากสินค้าที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ชาวอิตาลี โดยรายงานนี้ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 139,302 รายการ คิดเป็น 83.10% ของยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งหมดของอิตาลี ในปี 2023

ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ข้อความบนฉลากโลโก้ ของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมากกว่า 100 รายการ มี 36 รายการ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและมูลค่า โดยแบ่งประเภทข้อความบนฉลากเป็น 7 หมวดใหญ่ ได้แก่ 1.ฉลากแสดงถึงสินค้าอิตาลีและภูมิภาค เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 12.09% 2.ฉลากสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 14.52% 3.ความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัย เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 33.28% 4.การรับรองและมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 13.88% 5.สินค้าทำมือ เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 21.60% 6.ฉลากแสดงประเภท ของผิวสัมผัส เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 12.48% และ 7.ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยได้ 16.50%

นอกจากนี้พบว่า ชาวอิตาเลียนหันมาสนใจเกี่ยวกับข้อมูลบนฉลาก โดยเฉพาะข้อมูลที่ส่งเสริมสุขภาพมีส่วนผสม จากธรรมชาติ มีความปลอดภัย ยั่งยืน และมีมาตรฐานทางจริยธรรม และยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เช่น การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวโน้มดังกล่าวส่งผลต่อความจำเป็นที่ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายต้องปรับปรุงและเสริมสร้างข้อมูลบนฉลากสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารกับผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

นายภูสิต กล่าวว่า ผู้บริโภคชาวอิตาเลียนให้ความสำคัญกับสินค้าที่ปราศจากสารเคมีทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค เนื่องจากในปัจจุบันชาวอิตาลีหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการไทยควรต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการตลาด โดยเน้นคุณสมบัติด้านสุขภาพ ความเป็นธรรมชาติ การรับรองมาตรฐานสากล รวมถึงเน้นสินค้าท้องถิ่นและความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตน สอดรับกับแนวการบริโภคที่กำลังเติบโต

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญกับการออกแบบฉลาก โดยควรใส่ข้อมูลที่ชัดเจน ดึงดูดความสนใจ และสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดอิตาลีและยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ควรพิจารณาเพียงแต่ข้อมูลบนฉลากเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในกระบวนการผลิต รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวอิตาเลียนและชาวยุโรปที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img