“กูรู” ประเมินราคาทองคำสัปดาห์นี้แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ หวั่น “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหนุนเฟด ขึ้นดอกเบี้ยคุมเงินเฟ้อ
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางทองคำในสัปดาห์นี้ว่า แนวโน้มทิศทางทองคำเป็น Sideway down โดยราคาทองคำช่วง 1-26 ก.ค. ปรับตัวขึ้น ประมาณ 48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้น 50 บาท ราคาทองคำลดช่วงบวกลง นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากแสดงความกังวลว่า หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐครั้งใหม่ อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและธนาคารกลางสหรัฐ ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ ต้องดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดมากกว่าที่วางแผนไว้ในปัจจุบัน
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
-การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค. และนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย., พ.ย. และธ.ค. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในเดือนก.ย.และธ.ค
-การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ทั้งนี้ เงินเฟ้อภาคบริการ ยังคงอยู่ที่ 5.7% ในเดือนมิ.ย.ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงาน อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ทรงตัวที่ 3.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่ง ทรงตัวเหนือกรอบเป้าหมาย 2% ของ BoE ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE โดยโอกาสที่ BoE จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค.นั้นลดลงเหลือ 33% จาก 49% ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ
-การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในภาคแรงงาน โดยแนะนำติดตาม ISM เปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต และดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนก.ค. , ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือนก.ค.
-การประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด เดือนก.ค. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.2% เมื่อเทียบรายปี อัตราเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 2% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ BOJ ตั้งไว้ก่อนที่จะทยอยยกเลิกมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติมต่อไป โดยผลสำรวจของบลูมเบิร์ก เผยว่า มีผู้สังเกตการณ์ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเพียง 30% เท่านั้นที่มองว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่กว่า 90% มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลานี้จะสร้างความเสี่ยงในอนาคตได้
กลยุทธ์การลงทุน
