รัฐเปิดให้ลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเปิดให้กลุ่มมีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนและกดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” โดยเริ่มวันนี้ (1 ส.ค.) วันแรกจนถึง 15 ก.ย.นี้
โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เปิดให้ประชาชนกลุ่มใช้สมาร์ทโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เริ่มวันนี้ (1 ส.ค.) จนถึง 15 ก.ย.นี้ โดยประชาชนทุกคนที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการณ์ไว้จำนวน 45-50 ล้านคน
คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 กันยายน 2567)
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการตรวจสอบเงินฝาก จำนวน 6 ประเภท ได้แก่
- 1. เงินฝากกระแสรายวัน
- 2. เงินฝากออมทรัพย์
- 3. เงินฝากประจำ
- 4. บัตรเงินฝาก
- 5. ใบรับฝากเงิน
- 6. ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ 1-5 โดยเงินฝากให้หมายถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
โดยขั้นตอนการสมัครใช้งานแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน มีดังนี้ ดาวน์โหลดแอปฯ “ทางรัฐ”
- iOS : (คลิกที่นี่)
- Android : (คลิกที่นี่)
2. เปิดแอปฯ ทางรัฐ กดปุ่ม “สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ”
3. กดที่คำว่า “สมัครสมาชิก”
4. กดปุ่ม “สมัครด้วยบัตรประชาชน” บนแอปฯ ทางรัฐที่เดียว ไม่ต้องใช้แอปฯ อื่น ไม่ต้องไปเสียบบัตรที่ Counter Service ช่วยให้ลงทะเบียนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
5. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นคลิกเครื่องหมายถูกต้องที่ ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข แล้วกด ยอมรับ
6. อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน จากนั้นกดปุ่มเพื่อถ่ายรูป
7. กรอกข้อมูลของท่านและตรวจสอบให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน แล้วกดปุ่ม ยืนยันตัวตน
8. อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า จากนั้นเริ่มสแกนใบหน้าของท่าน
9. กำหนด “ชื่อบัญชีและรหัสผ่าน” ในการเข้าสู่แอปฯ แล้วกด “ยืนยัน”
10. ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก แล้วกดยืนยัน Pin Code อีกครั้ง
11. เปิดใช้งานการสแกนใบหน้าของท่านโดยกดที่ “ใช้งาน”
12. จากนั้นกด “เริ่มใช้งาน” และเตรียมพร้อมรอติดตามประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เลย
ส่วนกรณีที่ท่าน “สแกนใบหน้าไม่ผ่าน” สามารถสร้างบัญชีและเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐได้ก่อน แล้วค่อยทำการสแกนใบหน้าภายหลัง โดยกดปุ่ม “สร้างบัญชี”
อย่างไรก็ตาม หากใครที่ยืนยันตัวตนเรียบร้อย เพียงเปิดแอปฯ ทางรัฐ และเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย ก็สามารถกดปุ่มลงทะเบียนขอรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ได้เลย
กลุ่มบุคคลที่ไม่ใช้สมาร์ทโฟน รับสิทธิเงินดิจิทัลอย่างไรกันบ้าง
การลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (ระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567) ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน
สำหรับการใช้จ่ายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน แต่การใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านค้าจะทำได้ในวงแคบกว่าการใช้สิทธิของประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน ดังนั้นการลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนจะสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า จึงแนะนำให้พยายามลงทะเบียนผ่านทางสมาร์ทโฟนก่อนเป็นอันดับแรก
อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียน รัฐบาลได้กำหนดจุดให้บริการ (Walk-in) สอบถามข้อมูล และให้บริการช่วยรับลงทะเบียน 4 จุด รวม 5,199 แห่ง ดังนี้
1. ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
2. ที่ทำการไปรษณีย์ 1,200 แห่งทั่วประเทศ (ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
3. ธนาคารออมสิน 1,047 แห่งทั่วประเทศ
4. ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 1,238 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 หรือช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้