ตลาดหุ้นไทยร่วง 9.67 จุดสอดรับตลาดหุ้นโลก หลังตัวเลขภาคการผลิต (PMI) ในเดือนก.ค.ทั้งของจีนและสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐที่จะประกาศคืนนี้
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,313.08 จุด ลดลง 9.67 จุด หรือ -0.73% มูลค่าซื้อขาย 34,650.56 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังตัวเลขภาคการผลิต (PMI) ในเดือนก.ค.ทั้งของจีนและสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐก็สูงกว่าคาด หนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ย แต่ดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นแรงมาแล้วก่อนหน้าจึงมีแรงขายทำกำไรออกมากดดัน
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นญี่ปุ่นวันนี้ลงลึก 5.8% หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่า ส่วนตลาดหุ้นไทยลงน้อยเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค เพราะบ้านเราไม่ค่อยมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐที่จะประกาศคืนนี้ โดยหากอัตราการว่างงานสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% ก็จะยิ่งเร่งให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค.เพิ่มจากคาดปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือน ก.ย.. ซึ่งทิศทางตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นทั่วโลก ให้แนวรับ 1,307 จุด แนวต้าน 1,324 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,077.32 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,828.76 ล้านบาท ปิดที่ 238.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,785.40 ล้านบาท ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,189.99 ล้านบาท ปิดที่ 82.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 958.17 ล้านบาท ปิดที่ 56.00 บาท ลดลง 0.50 บาท