วันอังคาร, กันยายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“เศรษฐา”พ้นเก้าอี้กระทบเชื่อมั่นระยะสั้น “เอกชน”หวังนายกฯคนใหม่ปชช.ยอมรับ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เศรษฐา”พ้นเก้าอี้กระทบเชื่อมั่นระยะสั้น “เอกชน”หวังนายกฯคนใหม่ปชช.ยอมรับ

“เอกชน” ประสานเสียงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “เศรษฐา” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กระทบความเชื่อมั่นระยะสั้นเกิดสุญญากาศชั่วคราว หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย หวัง “นายกฯคนใหม่” เป็นที่ยอมรับของประชาชน-สานต่อนโยบายบริหารประเทศ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งจากคำร้องของกลุ่ม 40 สว.กรณีการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะพ้นจากหน้าที่ และเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า ทุกฝ่ายต้องน้อมรับ แต่ในส่วนของเศรษฐกิจก็ต้องบอกว่ากระทบความเชื่อมั่นของประเทศระยะสั้น โดยเฉพาะโครงการและแผนงานต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

ทั้งนี้เชื่อว่าในช่วงที่จะต้องรอเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ พร้อมครม.ชุดใหม่ ซึ่งมีกระบวนการไม่น้อยกว่า 1 เดือน ก็คงเร่งกระบวนการ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป เชื่อว่าจะไม่กระทบ ประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้ ซึ่งการท่องเที่ยวก็ยังเดินหน้าได้ และช่วงนี้ก็อยากให้มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เพื่อจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง ขณะที่สภาฯ ก็ยังสามารถพิจารณางบประมาณปี 68 ได้

อย่างไรก็ตาม การเมืองที่กลับมาเดินหน้าอย่างมีเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าปัญหาปากท้องของประชาชนในภาวะเช่นนี้เป็นเรื่องที่ ต้องเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งหวังว่าฝ่ายการเมืองโดยระบบรัฐสภาจะได้ช่วยกันในการที่จะดำเนินตามกระบวนการของประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาสู่การรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารด้านประเทศ ให้เติบโตได้ตามศักยภาพต่อไป

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า คำวินิจฉัยถอดถอนนายกฯ ทำให้นักลงทุนต่างช็อก และชะงักการลงทุน โดยต้องการการเมืองที่มีเสถียรภาพ หรือมีความนิ่งและต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่องมานาน การเปลี่ยนขั้วพรรคการเมืองตลอดเวลาจะทำให้นโยบายที่รัฐบาลเคยขับเคลื่อนนั้นหยุดชะงักไป

สำหรับปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า และมีความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในโลก โดยประเทศไทยก็ยังอยู่ในช่วงที่จะต้องรีบเร่งในการที่จะสร้างความเชื่อมั่น สร้างการลงทุนใหม่ๆ เชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ทิสโก้ ในฐานะนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กล่าวว่า ผลวินิจฉัยผิดคาดจากก่อนหน้านี้ตลาดทุนมองแง่ดี และเกิดภาวะสูญญากาศชั่วคราวในเรื่องที่รัฐบาลกำลังผลักดัน เป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยที่กำลังต้องการการผลักดันให้ฟื้นตัวขึ้น

ดังนั้นต้องรอติดตามความชัดเจนทางการเมืองหลังจากนี้ก่อนว่า นายกฯ และครม.ใหม่ จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง การเบิกจ่ายงบประมาณปีนี้ จะผลักดันออกมาได้มากน้อยแค่ไหนและนโยบายที่เป็นเรือธงของรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยยังเป็นแกนนำรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลง โดยพรรคเพื่อไทยมีแคนดิแดตนายกรัฐมนตรี 2 คน หากแต่งตั้งนายกคนใหม่ได้เร็วเป็นเรื่องดี แต่ต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนและมีศักยภาพในการสานต่อนโยบายบริหารประเทศ 

สำหรับรัฐมนตรีจะเป็นคนเดิมหรือคนใหม่มีการสลับขั้วการเมืองบ้างไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อนโยบายของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ให้เดินหน้าต่อไปได้ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ตและกองทุนวายุภักษ์ 1 คาดหวังว่าน่าจะยังมีอยู่ และมองว่าไตรมาส 4 ปีนี้ เศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทยควรจะกลับมาฟื้นตัวต่อได้ จากบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกในขณะนี้เริ่มนิ่งและบรรยากาศการลงทุนเริ่มกลับมา

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่รอความชัดเจนการเมืองไทย เป็นความเสี่ยงเพิ่มเติม ดัชนีหุ้นไทยกระชากลงมาบ้าง เแต่ไม่โดนทุบลงมารุนแรง คงซึมอีกระยะในช่วงสูญกาศการเมืองชั่วคราว ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดหวังว่าจะมีข่าวดีบ้างแนะนักลงทุนต้องตั้งสติ พิจารณาความเสี่ยงที่รับได้และปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ มองกลุ่มหุ้นปลอดภััยยังลงทุนได้และราคาหุ้นไม่แพง และไม่ควรขายในภาวะตลาดปรับตัวลง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img