“รุ่ง” ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เกาะติดตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/67 – ประชุมกนง.-เฟดที่เมือง Jackson Hole เปิดสถิติ 1-16 ส.ค.เงินบาทแข็ง
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยถึงค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของไทย ซึ่งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะแถลงในวันที่ 19 ส.ค.นี้ รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 21 ส.ค. คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่ กนง.ประเมินไว้อย่างมีนัยสำคัญ เศรษฐกิจฟื้นตัวตามวัฎจักร อีกทั้งมีมาตรการช่วยเหลือเฉพาะจุด
ทั้งนี้มองว่าในมุมของธปท. อาจต้องการเก็บกระสุนดอกเบี้ยนโยบายไว้หากเกิดวิกฤติในอนาคต ขณะที่กระสุนทางการคลังเหลือน้อย นอกจากนี้ หนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่ได้ต่อยอดความมั่งคั่ง สะสมความเปราะบางในระบบหากดอกเบี้ยต่ำเกินไป ส่วนเรื่องการเมืองหลังได้นายกฯคนใหม่ ตลาดจะรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป นอกจากนี้ ยังมีงานสัมมนาวิชาการของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่เมือง Jackson Hole ซึ่งเฟดเป็นเจ้าภาพและมักใช้เวทีนี้สื่อสารกับตลาดเรื่องทิศทางดอกเบี้ย
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคช่วง 1 ส.ค.-16 ส.ค.พบว่า สกุลเงินส่วนใหญ่แข็งค่า นำโดยรูเปียห์-อินโดนีเซีย 3.65% รองลงมาเป็นริงกิต-มาเลเซีย 3.45% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.92% ดอลลาร์-ไต้หวัน 1.74% บาท-ไทย 1.65% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 1.17% วอน-เกาหลีใต้ 0.92% ดอง-เวียดนาม 0.80% หยวน-จีน 0.73% ยกเว้น รูปี-อินเดียอ่อนค่า 0.28%
โดยเดือนนี้เงินบาทแข็งค่าเกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้มากขึ้นว่าเฟดใกล้ลดดอกเบี้ยท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อชะลอตัวและอัตราการว่างงานสูงขึ้น โดยมีกระแสเงินทุนไหลเข้าพันธบัตรไทยแต่ในสัปดาห์นี้เงินไหลออกไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ส.ค. ต่างชาติขายหุ้นไทย 1.5 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.3 หมื่นล้านบาท