ส.อ.ท.ห่วงเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว หนี้ครัวเรือนสูง กนง.คงดอกเบี้ย 2.5% หวั่นเอสเอ็มอีอ่วมแบกภาระต้นทุนการเงินไม่ไหว หวังปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม เพื่อให้ช่วยต่อลมหายใจธุรกิจ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมวันที่ 21 ส.ค.2567 มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปีว่า ดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในภาวะขาลง โดยธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายบ้างแล้ว แต่แปลกใจที่กนง.คงดอกเบี้ย
ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงชะลอตัว หนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มกำลังซื้อ และลดต้นทุนด้านการเงินของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ก็สำคัญ ซึ่งเอกชนได้เคยมีความหวังว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567ต้นทุนทางด้านการเงินของผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีจะลดลง เพราะส่วนมากยังเผชิญกับปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจึงยากที่จะดำเนินธุรกิจแข้งข่นกับสินค้าราคาถูกที่เข้ามามากในปัจจุบัน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กนง.ประเมินจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณการฟื้นตัวในหลายกลุ่ม แม้จะยังไม่โดดเด่น พร้อมรักษาระยะห่างของอัตราดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐไม่ให้ห่างมากเกินไป จนทำให้ดึงเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจออก ซึ่งสอดคล้องหลายประเทศที่ยังตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ เพื่อรอความชัดเจนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และหากสหรัฐลดดอกเบี้ยลงเชื่อว่าหลังจากนั้นแต่ละประเทศจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยตามความเหมาะสมแต่ละประเทศ
สำหรับประเทศไทย แม้ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ กว่า 1% แต่เป็นผลมาจากนโยบายการช่วยเหลือด้านพลังงาน จึงเห็นว่า กนง.จะมีทิศทางชัดเจนขึ้นหลังจากเฟดลดดอกเบี้ยแล้ว แต่อาจทิ้งช่วงเพื่อดูทิศทางของสถานการณ์เศรษฐกิจให้เหมาะสม คาดว่าหากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มลดลง กนง. คงจำเป็นจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม เพื่อให้ช่วยต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต่อไป
