ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 23.36จุดหลังเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในภูมิภาครวมถึงไทย โดยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านสูงสุดในรอบ 2ปี6เดือน ส่วน แนวโน้มในสัปดาห์หน้าให้แนวต้านที่ 1,460 จุด แนวรับ 1,410 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) SET เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,427.64 จุด เพิ่มขึ้น 23.36 จุด (+1.66%) มูลค่าซื้อขาย 107,436.04 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้แรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงบ่ายเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์เต็มๆ ทั้ง BBL KBANK KTB SCB หลังจากที่ราคาลงไปมากแล้วจากปัญหาหนี้ NPL จนเทรดต่ำกว่า Book Value
อย่างไรก็ตาม มองหุ้น KBANK, KTB ยังมี upside เพราะเทรดที่ 0.68 เท่า มีโอกาสขึ้นไป 0.8 เท่าได้ ขณะที่ SCB, TTB เทรด 0.8 เท่าแล้วขึ้นจากก่อนหน้า 0.6 เท่า
สำหรับ Fund Flow วันนี้ไหลเข้ามาในภูมิภาค ทั้งตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงไทย โดยมาจากการขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็น Growth Stock โยกเข้ามาเล่นกลุ่ม Value Stock ที่ส่วนใหญ่อยู่ในไทยและอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ บล.อาร์เอชบีฯ เพิ่งปรับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ขึ้นมาที่ 1,560 จุด P/E 16 เท่า จากเป้าเดิม 1,430 จุด หลังจากจะมีเม็ดเงินใหม่ของกองทุนวายุภักษ์จ่อเข้ามาลงทุนราว 1-1.5 แสนล้านบาท และ Fund Flow ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้า ต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.และอัตราว่างงานของสหรัฐในคืนนี้ หากตัวเลขว่างงานเท่าเดิมที่ 4.3% อาจมีโอกาสได้เห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในเดือน ก.ย.พร้อมให้แนวต้านที่ 1,460 จุด แนวรับ 1,410 จุด
รายงานข่าวแจ้งว่า มูลค่การซื้อขายวันนี้ 1.07 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 2 ปี 6 เดือน
ด้านหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BBL มูลค่าการซื้อขาย 6,380.44 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 5,975.51 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,297.32 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,984.10 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 4,975.39 ล้านบาท ปิดที่ 20.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
